• 4 December 2024
  • ความเครียด ภัยเงียบกระตุ้นเบาหวาน วัยรุ่น-วัยทำงานต้องระวัง

ความเครียดกลายเป็นภัยเงียบที่หลายคนมองข้าม แต่กลับมีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานที่ต้องเผชิญกับแรงกดดันทั้งจากการเรียน การทำงาน และปัญหาส่วนตัวต่างๆ ซึ่งหากไม่สามารถจัดการความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดโรคเบาหวาน

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเตือนว่า ความเครียดทำให้ร่างกายปล่อยฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งมีผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งหากเกิดขึ้นซ้ำๆ ตลอดเวลา จะส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี ส่งผลให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินและเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นเบาหวานได้ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานที่มักมีวิถีชีวิตเร่งรีบและไม่ค่อยใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพ

การจัดการความเครียดอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้หากิจกรรมผ่อนคลาย เช่น การออกกำลังกาย การทำสมาธิ หรือการพักผ่อนอย่างเพียงพอ และควรมีการตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นเบาหวานในระยะยาว

  • สภาเภสัชฯ – BDI เชื่อมข้อมูลยืนยันตัวตนเภสัชกร นายกสภาฯ มั่นใจ ปมจ่ายยา 16 อาการไม่กระทบระบบ

นายกสภาเภสัชกรรมเปิดเผยว่า สภาเภสัชกรรมได้ร่วมมือกับ BDI (สถาบันพัฒนาวิชาชีพเภสัชกรรม) ในการพัฒนาและเชื่อมโยงระบบข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตนของเภสัชกรให้สามารถตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องได้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองต่อการควบคุมและพัฒนาระบบการจ่ายยาในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกรณีการจ่ายยาให้กับผู้ป่วยที่มีอาการทั่วไป 16 ประการ

นายกสภาฯ ยืนยันว่า แม้จะมีการเพิ่มช่องทางการจ่ายยา 16 อาการตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้รับการวิจารณ์จากบางฝ่าย แต่เชื่อว่าการใช้ระบบออนไลน์และการเชื่อมข้อมูลผ่าน BDI จะไม่กระทบต่อระบบการจ่ายยาในภาพรวม เนื่องจากระบบดังกล่าวจะช่วยให้เภสัชกรสามารถตรวจสอบและยืนยันข้อมูลได้อย่างแม่นยำ และรักษาคุณภาพการให้บริการยาในระดับสูง

โดยการปรับปรุงระบบนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเภสัชกร และลดความเสี่ยงจากการให้ข้อมูลหรือการจ่ายยาอย่างผิดพลาด พร้อมทั้งทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการใช้ยาที่เหมาะสมได้มากขึ้น โดยไม่ต้องไปพบแพทย์ในกรณีอาการเบื้องต้น

  • สบส. เชิญร่วมแสดงความคิดเห็นร่างกฎกระทรวง 3 ฉบับ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (สบส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการจัดทำร่างกฎกระทรวงจำนวน 3 ฉบับ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างการคุ้มครองผู้บริโภคในด้านต่างๆ โดยมุ่งเน้นการควบคุมและกำหนดมาตรการในการป้องกันและดูแลสิทธิของผู้บริโภคในธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะในด้านสุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภค ซึ่งจะครอบคลุมถึงการผลิตและจำหน่ายสินค้าในตลาด

สบส. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาความเหมาะสมและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินการตามร่างกฎกระทรวงนี้ โดยผู้ที่สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซต์และแบบฟอร์มออนไลน์ ซึ่งจะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นถึงวันที่กำหนด เพื่อให้การออกกฎกระทรวงดังกล่าวมีความโปร่งใสและสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ

ร่างกฎกระทรวงทั้ง 3 ฉบับนี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงในการคุ้มครองผู้บริโภค ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการใช้สินค้าหรือบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพและความปลอดภัย โดยคาดหวังว่าจะสามารถลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานหรือการบริการที่ไม่ปลอดภัยได้

  • สธ. ประชุมส่วนกลาง-ภูมิภาค ย้ำเดินหน้าลดโรคเอ็นซีดี ยกระดับ 3 เรื่องสำคัญในระบบสาธารณสุข

กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จัดการประชุมระหว่างส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อทบทวนและย้ำแนวทางการดำเนินงานในการลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs (Non-communicable diseases) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของกระทรวงสาธารณสุขในปีนี้ โดยการประชุมมีการหารือถึงการดำเนินงานในระดับท้องถิ่นและพื้นที่ต่างๆ พร้อมทั้งการเสริมสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อผลักดันการลดการเกิดโรคเหล่านี้

ในการประชุมครั้งนี้ สธ. เน้นย้ำถึงการดำเนินงานใน 3 เรื่องสำคัญที่มีผลต่อการยกระดับระบบสาธารณสุข คือ 1) การส่งเสริมการดูแลสุขภาพเบื้องต้นและป้องกันโรคเอ็นซีดีผ่านการสร้างความรู้และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชน, 2) การพัฒนาคุณภาพการดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีโรคเอ็นซีดี และ 3) การเสริมสร้างระบบข้อมูลเพื่อให้สามารถติดตามและประเมินผลการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กระทรวงสาธารณสุขหวังว่า การร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชนในการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยลดภาระโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตและโรคภัยไข้เจ็บในประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนและลดภาระด้านการรักษาพยาบาลในระยะยาว

  • บุรีรัมย์พบผู้ป่วยปอดอักเสบรุนแรงจากบุหรี่ไฟฟ้ารายแรกปี 67

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567, บุรีรัมย์ – พบผู้ป่วยรายแรกที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรงจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในปี 2567 โดยผู้ป่วยเป็นชายวัย 25 ปี มีอาการหายใจลำบากและอ่อนเพลียมาเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจังหวัดบุรีรัมย์ ผลการตรวจทางการแพทย์พบว่ามีการติดเชื้อในปอดจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการอักเสบและทำลายเนื้อปอด

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุว่า การใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการปอดอักเสบในครั้งนี้ ซึ่งทางการแพทย์ได้แนะนำให้ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเลิกพฤติกรรมดังกล่าวเพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ โดยผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะและการดูแลในโรงพยาบาล ขณะนี้อาการยังอยู่ในขั้นรุนแรงและต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู

การค้นพบกรณีนี้ได้เพิ่มความตระหนักเกี่ยวกับอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าที่มีผลต่อระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ยังไม่ทราบถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเวลานาน ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจึงได้เร่งเสริมสร้างความรู้และเตือนประชาชนให้ระวังอันตรายจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง

  • สสส. แชร์ประสบการณ์สร้างเสริมสุขภาพ พัฒนานโยบายลดภาระค่าใช้จ่าย

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 – สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้แชร์ประสบการณ์การสร้างเสริมสุขภาพในงานสัมมนา ซึ่งมีการพูดถึงการพัฒนานโยบายและการวางแผนในด้านการส่งเสริมสุขภาพของประชาชน รวมถึงการลดภาระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพในระยะยาว โดยทาง สสส. มุ่งหวังที่จะสร้างแนวทางในการพัฒนาระบบสุขภาพที่ยั่งยืน

สสส. ได้เผยถึงบทบาทในการสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่ส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพที่ดี รวมทั้งการเสริมสร้างความรู้และจิตสำนึกเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กและเยาวชน, คนสูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องได้รับความใส่ใจเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงการลงทุนในโครงการด้านสุขภาพที่สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายในอนาคต เช่น การป้องกันโรคและการส่งเสริมการออกกำลังกาย

ในงานสัมมนานี้ยังได้พูดถึงการส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพที่ดีและทั่วถึง รวมถึงการประสานงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาแนวทางการจัดการระบบสุขภาพที่มีประสิทธิภาพและช่วยลดค่าใช้จ่ายในระบบการรักษาพยาบาลของประเทศ

  • สภาเภสัชกรรม ขออย่าเผยข้อมูลผิดกฎหมาย PDPA ปมจ่ายยา 16 อาการเจ็บป่วยเล็กน้อย

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 – สภาเภสัชกรรมได้ออกมาขอให้ผู้เกี่ยวข้องระมัดระวังการเผยแพร่ข้อมูลที่ผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายยาใน 16 อาการเจ็บป่วยเล็กน้อยที่ได้รับความสนใจจากประชาชน โดยสภาเภสัชกรรมเตือนว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยต้องได้รับการปกป้องและรักษาความเป็นส่วนตัวตามข้อกำหนดของกฎหมาย

สภาเภสัชกรรมย้ำว่า การเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลหรือรายละเอียดเกี่ยวกับการรักษาที่ไม่ได้รับการยินยอมจากผู้ป่วย หรือการเปิดเผยข้อมูลที่มีผลกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วยเป็นการละเมิดกฎหมาย PDPA ซึ่งอาจนำไปสู่การดำเนินคดีตามกฎหมายได้

นอกจากนี้ สภาเภสัชกรรมยังได้ชี้แจงถึงความสำคัญในการคำนึงถึงจริยธรรมในการจ่ายยา โดยเฉพาะเมื่อเป็นการจ่ายยาที่สามารถรักษาอาการเล็กน้อยได้ ซึ่งเภสัชกรต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบและรักษาความลับของข้อมูลผู้ป่วย เพื่อไม่ให้เกิดการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการทำงานในวิชาชีพเภสัชกรรมอย่างเคร่งครัด

  • สธ. มอบโล่ ‘บอร์ดคุมน้ำเมา’ ระดับจังหวัด รวม 10 แห่ง

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 – กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้จัดพิธีมอบโล่เกียรติยศให้แก่บอร์ดคุมน้ำเมาระดับจังหวัดที่มีผลงานดีเด่นในการควบคุมการจำหน่ายและการบริโภคน้ำเมาในพื้นที่ของตน โดยมีการคัดเลือกจาก 10 จังหวัดที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการลดปัญหาการดื่มสุราและส่งเสริมการบริโภคที่รับผิดชอบ

การมอบโล่ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อยกย่องความพยายามของคณะกรรมการบอร์ดคุมน้ำเมาในแต่ละจังหวัด ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ผ่านการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดตั้งพื้นที่ปลอดสุรา การจัดอบรมสร้างจิตสำนึกในการบริโภคน้ำเมาอย่างมีความรับผิดชอบ รวมถึงการควบคุมและกำกับดูแลการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า “การควบคุมการบริโภคน้ำเมาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญในการลดปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะยังคงสนับสนุนการดำเนินงานของบอร์ดคุมน้ำเมาทุกจังหวัดเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีขึ้นและลดปัญหาสังคมที่เกิดจากการดื่มสุรา

ที่มา: prachachat/hfocus

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *