นายวิทยา อภิรักษ์วิริยะ ผู้จัดการทั่วไป Think of Living และ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (ฝั่งธุรกิจดีเวลลอปเปอร์) กล่าวว่า ในปีนี้ผู้บริโภคยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อกำลังซื้อและความเชื่อมั่นในการใช้จ่าย
ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นปัจจัย 4 อยู่ไม่น้อย โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการลดค่าโอนกรรมสิทธิ์-ค่าจดจำนองจากภาครัฐ ซึ่งจะสิ้นสุดลงในปลายปี 2566 นี้ ถือเป็นโอกาสอันดีของผู้ซื้อที่มีความพร้อมทางการเงินในการเลือกเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยในเวลานี้
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Think of Living พบว่า ในช่วงเดือนตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นช่วงต้นไตรมาสสุดท้ายของปี มีจำนวนผู้สนใจเข้าชมข้อมูลโครงการที่อยู่อาศัยบนเว็บไซต์เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า สอดคล้องกับเว็บไซต์ DDproperty พบว่า มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ในเดือนตุลาคม 2566 เพิ่มขึ้น 9% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
สะท้อนให้เห็นดีมานด์ของผู้ซื้อบ้านที่ยังคงมีอยู่และเพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจในช่วงไตรมาส 4 การจัดงาน Living Expo 2023 มหกรรมบ้านและคอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าครั้งนี้ จึงเปรียบเสมือนสะพานที่เชื่อมระหว่างดีมานด์ของคนหาบ้านให้มาบรรจบกับสินค้าของผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้ระบายสต็อกคงค้างควบคู่กับการนำเสนอโครงการใหม่ เพื่อดึงดูดกำลังซื้อจากผู้บริโภค และสร้างยอดขายให้บรรลุตามเป้าหมายธุรกิจที่วางไว้
หากพิจารณาข้อมูลผู้เข้าชมเว็บไซต์ DDproperty ตามประเภทอสังหาฯ พบว่า คอนโดฯ ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยมียอดผู้เข้าชมสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าถึง 17% ขณะที่ที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ เพิ่มขึ้น 6% เท่ากัน นอกจากนี้ คอนโดฯ ยังเป็นอสังหาฯ ประเภทเดียวที่มีผู้เข้าชมเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์ความต้องการที่อยู่อาศัยในราคาที่จับต้องได้ รวมทั้งพื้นที่ใช้สอยอาจไม่ใช่ตัวเลือกแรกของคนหาบ้านเช่นเดียวกับในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกต่อไป
ในส่วนระดับราคาที่อยู่อาศัยที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในเดือนตุลาคม 2566 อยู่ที่ 1-3 ล้านบาท มีสัดส่วนถึง 32% ของระดับราคาทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่อยู่อาศัยของกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) ขณะเดียวกัน ระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทถือเป็นที่อยู่อาศัยที่มีการเข้าชมเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเติบโตถึง 18% สะท้อนให้เห็นถึงดีมานด์ของกลุ่มผู้บริโภคระดับบนที่มีกำลังซื้อสูง มีความพร้อมทางการเงิน และไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ขณะที่คอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้ายังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทำเลใกล้เมืองและใจกลางเมือง ย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ โดยผู้บริโภคยังคงให้ความสำคัญกับการเลือกทำเลที่เดินทางได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้า โดยเฉพาะในเส้นทางที่เปิดให้บริการแล้ว ซึ่งยืดหยุ่นและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์วิถีคนเมือง โดยสถานีรถไฟฟ้าที่มีผู้ค้นหาที่อยู่อาศัยมากที่สุด 5 อันดับแรกในเดือนตุลาคม 2566 ได้แก่ อันดับ 1 BTS อ่อนนุช ตามมาด้วย อันดับ 2 MRT พระราม 9, อันดับ 3 BTS ทองหล่อ, อันดับ 4 BTS พร้อมพงษ์ และ อันดับ 5 BTS เอกมัย
“อีกหนึ่งความพิเศษที่ไม่ควรพลาดของงานครั้งนี้คือ แคมเปญ Best Deal Guarantee ที่สุดของความคุ้มค่าที่ Think of Living และ DDproperty ได้ร่วมกับผู้พัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำของไทย คัดสรรที่อยู่อาศัยราคาสุดพิเศษถึง 20 โครงการ จากทั้งหมด 52 โครงการ มารับประกันราคาที่ดีที่สุดเฉพาะในงานนี้ที่เดียวเท่านั้น และนี่เป็นครั้งแรกที่เรากล้ารับประกันราคาห้องสุดพิเศษกับโครงการที่ร่วมแคมเปญ เพื่อให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยในราคาที่คุ้มค่าที่สุด ตอบโจทย์ทั้งผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยและนักลงทุน ด้วยการมอบส่วนลดสูงสุด 400,000-30 ล้านบาท” นายวิทยา กล่าว
นอกจากนี้ยังยินดีปรับราคาให้ หากผู้บริโภคพบข้อเสนอราคาที่ดีกว่าในช่องทาง Online Official หรือ Sale Gallery ของโครงการดังกล่าว ระหว่างวันที่ 1-26 พ.ย.นี้ เพื่อการันตีว่าแคมเปญ Best Deal Guarantee จะส่งมอบที่อยู่อาศัยราคาดีที่สุด และเป็นโอกาสทองที่คุ้มค่าของผู้ซื้อ คาดว่างาน Living Expo 2023 จะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดอสังหาฯ และกระตุ้นการซื้อขายในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2566 ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ตั้งเป้ามีผู้สนใจเข้าร่วมงานเพิ่มขึ้น 50% จากครั้งก่อนหน้า
แหล่งที่มา www.bangkokbiznews.com
ขอบคุณรูปภาพจาก DDproperty
No Comments