“จตุพร” ยกหมูเถื่อนประเทศอื่นเป็นกรณีศึกษา ชี้ ไทยต้องปราบหมูเถื่อนให้เด็ดขาด ลดการผูกขาด และหาทางให้ประชาชนได้ประโยชน์ ป้องกันกลุ่มทุนเพ่นพ่านมีอำนาจเหนือรัฐ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยกล่าวถึงเรื่องหมูเถื่อน ที่มีความกังขา พร้อมยกตัวอย่างกรณีประเทศอื่นว่า เจ้าสัวของประเทศหนึ่งไปเปิดกิจการเลี้ยงหมูในต่างประเทศด้วยต้นทุนผลิตต่ำกว่า แล้วส่งมาขายในประเทศที่นำเข้า ซึ่งเจ้าสัวก็เป็นเจ้าของกิจการทั้งในประเทศส่งออก และนำเข้า จึงนำเข้ามาได้ง่าย แต่หากเป็นคนละเจ้าของกิจการแล้วจะส่งออกยากมาก เพราะต้องผ่านด่านในแต่ละประเทศ ซึ่งไม่ง่ายจะหลุดรอดออกมาได้ง่ายๆ
ก่อนจะย้ำว่า ความสงสัยนี้เกิดขึ้นกับประเทศอื่น ไม่ใช่กรณีหมูเถื่อนที่นำเข้ามาในไทย เจ้าสัวของประเทศนั้นไปเปิดกิจการเลี้ยงหมูในต่างประเทศด้วยต้นทุนผลิตต่ำกว่า แล้วส่งมาขายในประเทศที่นำเข้า ซึ่งเจ้าสัวก็เป็นเจ้าของกิจการทั้งในประเทศส่งออก และนำเข้า แต่หากเป็นคนละเจ้าของกิจการแล้วจะส่งออกยากมาก เพราะต้องผ่านด่านในแต่ละประเทศ ซึ่งไม่ง่ายจะหลุดรอดออกมาได้ง่ายๆ
สำหรับกรณีหมูเถื่อนควรพิจารณาถึงต้นทางส่งหมูออกจากต้นทางต่างประเทศนั้นเป็นใคร เช่น ในอเมริกาใต้เป็นใคร ยุโรปเป็นใคร และเป็นเจ้าเดียวกันหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่คิดไม่ถึงเช่นกัน ดังนั้นเหตุการณ์เช่นนี้ประเทศไทยน่าจะเป็นกรณีศึกษา เพราะเป็นรื่องความผิดปกติ ซึ่งเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้ไทยได้คิดอย่างยิ่ง
ขณะเดียวกัน นายจตุพร ยังได้เสนอว่า ถ้าประเทศไม่ตั้งต้นนำทุกสิ่งอย่างทั้งกิจการใต้ดิน บนดิน การผูกขาดทรัพยากรชาติต่างๆ มากองไว้บนโต๊ะเพื่อจัดสรรให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นธรรมแล้ว จะไม่มีวันแก้ปัญหาอะไรได้ เมื่อมีตัวอย่างการลงทุนกิจการหมูในต่างประเทศที่ต่ำกว่ากับการลงทุนในประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในไทย แต่ไทยควรนำมาศึกษาเพื่อลดการผูกขาด และหาทางให้ประชาชนได้ประโยชน์ด้วย รัฐจะได้ไม่ต้องนำงบประมาณไปอุดหนุนเกษตรกรเรื่อยมา ดังนั้น ต้องปราบหมูเถื่อนให้เด็ดขาด
“สิ่งสำคัญ หากไทยยังปล่อยให้กลุ่มทุนเพ่นพ่านมีอำนาจเหนือรัฐ แล้วเป็นเจ้าของทุกสิ่งอย่างหมด ซ้ำร้ายยังอุปถัมภ์ข้าราชการทุกกรมกองมาตั้งแต่ต้น จนเกิดอำนาจสูงสุดในแต่ละหน่วยงาน ดังนั้นต้องล้างระบบแบบนี้ เพื่อทำประเทศให้ถูกต้องขึ้นมา โดยหวังให้ประเทศอยู่ได้ ทุนอยู่ได้ และประชาชนก็อยู่ได้”
ที่มา thairath.co.th
No Comments