• 21 December 2024

ชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย ปลื้มยอดขายหลังรุกตลาดบ้านหรูนำร่องโครงการแรกผ่านแบรนด์ “เบล็สซิงตัน วงแหวน-จตุโชติ” รอบ VVIP ครั้งแรก 25-26 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา ยอดขายทะลุกว่า 100 ล้านบาท จาก 3 ปัจจัยหลัก “ทำเลที่ตั้ง , คุ้มค่า-คุ้มราคา และ ดีไซน์สวย คอนเซ็ปต์ตอบโจทย์” พร้อมเชื่อมั่นตลาดบ้านหรูยังไปต่อหลังคนรวยรุ่นใหม่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้มีอำนาจในการซื้อสินค้าหลัก

นายชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BLESS ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่พักอาศัย ภายใต้แนวคิด “ใช้ชีวิต…ให้สุขยิ่งกว่า Live your Blessed Life” เปิดเผยว่า จากการเปิดขายบ้านใน โครงการเบล็สซิงตัน วงแหวน-จตุโชติ (BLESSINGTON Wongwan-Chatuchot) บ้านเดี่ยวหรูพูลวิลล่า ในรอบ VVIP ครั้งแรกเมื่อ 25-26 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าทำให้มียอดขายภายในงานมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

“แม้ว่าทำเลในย่านนั้นตลาดจะมีการแข่งขันกันดุเดือด แต่จากยอดขายที่ทำได้ 2 วัน ในรอบ VVIP ถือว่าเป็นการเปิดตัวที่ยอดเยี่ยม ตอกย้ำความไว้วางใจจากผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ BLESS” CEO เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป กล่าว ทั้งนี้ โครงการ“เบล็สซิงตัน วงแหวน-จตุโชติ” เป็นโครงการแรกที่บริษัทฯรุกตลาดบ้านหรู ซึ่งจากยอดจองเฟสแรกที่เปิดตัวสะท้อนผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า และเชื่อว่าโครงการน่าจะปิดการขายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยความสำเร็จดังกล่าวมาจากปัจจัยหลักดังนี้

ทำเลที่ตั้ง : โครงการตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูงอันดับต้น ๆ ของฝั่งกรุงเทพฯ ตอนเหนือ ทั้งการคมนาคมที่สะดวก สามารถเชื่อมต่อทั้งถนนสายหลักและสายรอง ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีคูคต และแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่อการใช้ชีวิต คุ้มค่า คุ้มราคา : บ้านเดี่ยวหรูพูลวิลล่า “เบล็สซิงตัน วงแหวน-จตุโชติ” โครงการแรกของบริษัทฯ ที่เปิดตลาดในระดับราคาเริ่ม 10-20 ล้านบาท* แต่ได้พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 320-450 ตารางเมตร(ตร.ม.) บนพื้นที่ดินขนาดตั้งแต่ 60-106 ตารางวา(ตร.ว.) มุ่งเน้นถึงคุณภาพและมาตรฐานการก่อสร้างที่พิถีพิถันในทุกขั้นตอน ซึ่งบริษัทฯ มีแนวคิดหลักในการออกแบบฟังก์ชันการใช้งานของบ้านให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการใช้สอยจริงในทุกตารางเมตร และเป็นครั้งแรกที่ BLESS ร่วมกับพาร์ทเนอร์กว่า 10 แบรนด์ชั้นนำ เช่น TOSTEM, SCG, CHRISTINA, DAIKIN, แบรนด์สระว่ายน้ำชั้นนำ ส.นภา และอื่นๆ โดยพาร์ทเนอร์คู่ค้าทางธุรกิจ ต่างมีความตั้งใจเดียวกัน สร้างบ้านเดี่ยวหรูในราคาที่คุ้มค่าที่สุด เพื่อส่งมอบคุณค่าที่แท้จริงให้ลูกบ้านและลูกค้าทุกคน

ทำเลที่ตั้ง : โครงการตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูงอันดับต้น ๆ ของฝั่งกรุงเทพฯ ตอนเหนือ ทั้งการคมนาคมที่สะดวก สามารถเชื่อมต่อทั้งถนนสายหลักและสายรอง ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีคูคต และแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่อการใช้ชีวิต คุ้มค่า คุ้มราคา : บ้านเดี่ยวหรูพูลวิลล่า “เบล็สซิงตัน วงแหวน-จตุโชติ” โครงการแรกของบริษัทฯ ที่เปิดตลาดในระดับราคาเริ่ม 10-20 ล้านบาท* แต่ได้พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 320-450 ตารางเมตร(ตร.ม.) บนพื้นที่ดินขนาดตั้งแต่ 60-106 ตารางวา(ตร.ว.) มุ่งเน้นถึงคุณภาพและมาตรฐานการก่อสร้างที่พิถีพิถันในทุกขั้นตอน ซึ่งบริษัทฯ มีแนวคิดหลักในการออกแบบฟังก์ชันการใช้งานของบ้านให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการใช้สอยจริงในทุกตารางเมตร และเป็นครั้งแรกที่ BLESS ร่วมกับพาร์ทเนอร์กว่า 10 แบรนด์ชั้นนำ เช่น TOSTEM, SCG, CHRISTINA, DAIKIN, แบรนด์สระว่ายน้ำชั้นนำ ส.นภา และอื่นๆ โดยพาร์ทเนอร์คู่ค้าทางธุรกิจ ต่างมีความตั้งใจเดียวกัน สร้างบ้านเดี่ยวหรูในราคาที่คุ้มค่าที่สุด เพื่อส่งมอบคุณค่าที่แท้จริงให้ลูกบ้านและลูกค้าทุกคน

 ดีไซน์สวย-คอนเซ็ปต์ตอบโจทย์ : สำหรับโครงการ “เบล็สซิงตัน วงแหวน-จตุโชติ” บ้านเดี่ยวหรูพูลวิลล่า Modern Irish Classic Style สังคมส่วนตัว เพียง 77 ครอบครัว ได้แรงบันดาลใจการออกแบบจาก เมืองเบล็สซิงตัน ประเทศไอร์แลนด์ ที่เงียบสงบ สวยงาม มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และความเข้าใจในการใช้ชีวิตตอกย้ำจุดยื่นในการพัฒนาบนแนวคิดเพื่อให้ “บ้าน” เป็นมากกว่า “ที่อยู่อาศัย” ด้วยการหาอินไซต์ของลูกค้าว่าต้องการอะไร แล้วทีมงานนำเอาความต้องการดังกล่าวมาตีโจทย์ เพื่อนำมาออกแบบดีไซน์ให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคให้ทุกพื้นที่ของบ้านใช้งานได้จริง และให้มีความเป็นส่วนตัวสูงสุดบ้านทุกหลัง ตั้งอยู่บนถนนหลักของโครงการแบบ Private Central Park Lane สามารถมองเห็นสวนส่วนกลาง และพักผ่อนกับร่มไม้ใหญ่ที่ทอดยาวกว่าร้อยต้น ช่วยบังสายตา สร้างอากาศบริสุทธิ์

พร้อมกันนี้นายชัยวัฒน์ ยังกล่าวให้ความเห็นในตอนท้ายว่า แม้ภาพโดยรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายอย่างมาตลอดทั้งปี 2566 และอาจลากยาวไปถึงปี 2567 ส่งผลให้ธุรกิจมีการฟื้นตัวอย่างช้าๆ แต่สำหรับตลาดบ้านหรูกลับไม่ส่งผลกระทบมากนัก โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยังเติบโตต่อเนื่อง

ไปพร้อมๆ กับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นตลอด 3 ปี ที่ผ่านมาและคาดว่าจะยังคงคึกคักต่อเนื่องตามการเกิดขึ้นของกลุ่ม “คนรวยรุ่นใหม่” ซึ่งคนกลุ่มนี้ถือเป็น Potential Customers ที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้มีอำนาจในการซื้อสินค้าหลักของตลาดและเป็นตัวแปรหลักของเศรษฐกิจในอนาคตด้วย

ที่มา:TerraBKK.com

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *