“Shoplus” ผู้ให้บริการเทคโนโลยี AI ระบบช่วยจัดการร้านค้าที่ขายผ่านโซเชียลมีเดียระบุ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ ผู้คนทั่วโลกใช้เวลากับโซเชียลมีเดียมากขึ้น 47% และยังได้เวลาช็อปปิ้งออนไลน์เพิ่มขึ้นกว่า 74%
“คิมมี เฉิน” ผู้จัดการทั่วไป Shoplus ระบุว่า แม้ในช่วงภาวะปกติการไลฟ์ขายสินค้าก็เป็นโอกาสที่จะทำให้ผู้คนสามารถเห็นสินค้าได้ง่าย และสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้ทันท่วงที ช่วยเพิ่มยอดขายให้มากขึ้นได้ สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันไปใช้ช่องทางดิจิทัลมากขึ้น ยิ่งเมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 ยิ่งทำให้ช่องทางออนไลน์กลายเป็นช่องทางขายที่สำคัญ
“กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประเทศจีนมีจำนวนร้านค้าที่ขายสินค้าผ่านการไลฟ์เพิ่มขึ้นกว่าเดิม 7 เท่า เนื่องจากการปิดประเทศในช่วงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่ในฟิลิปปินส์ก็ปิดประเทศ อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ 2 ราย จำเป็นต้องหยุดให้บริการด้านการขนส่งชั่วคราวในเดือนมีนาคม ทำให้การขายสินค้าผ่านโซเชียลมีเดียกลายมาเป็นช่องทางหลักในการสร้างรายได้ ที่มีทั้งหันมาขายอาหาร หน้ากากอนามัยเย็บมือ และสินค้าที่ทำด้วยตัวเอง ในเฟซบุ๊กส่วนตัว”
ไทยเองก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่เป็นผู้นำด้านการซื้อขายผ่านการไลฟ์ที่มีการเติบโตต่อเนื่อง ยิ่งเมื่อประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้จำนวนยอดการไลฟ์ในระบบของ Shoplus กลับมาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จาก 2,000 ไลฟ์ต่อสัปดาห์ เป็น 4,000 ไลฟ์ต่อสัปดาห์โดยร้านค้าผู้ใช้บริการของ Shoplus ผ่านการไลฟ์ มีออร์เดอร์เพิ่มขึ้นถึง 59% และมียอดการซื้อขายสินค้ารวม (GMV) ต่อเดือนเติบโตขึ้นกว่า 84% ช่วงกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมที่ผ่านมา มีร้านขายทองคำผ่านการไลฟ์ มียอดออร์เดอร์มากขึ้นถึง 216%
ส่วนสินค้าที่ซื้อขายมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ 1) สินค้าประเภทอุปโภคบริโภค ซึ่งมีการเติบโตขึ้นกว่า 33% 2) สิ่งของที่จำเป็นในครัวเรือน มีการเติบโตขึ้นกว่า 29% และ 3) ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ มีการเติบโตขึ้นกว่า 29%
และแม้ว่าจากวิกฤตโควิด-19 จะผ่านพ้นไป “คิมมี เฉิน” ก็ยังคงเชื่อว่า การไลฟ์ขายสินค้าจะยังเติบโตตามพฤติกรรมของผู้บริโภค และกลายเป็นอีกช่องทางสำคัญในการขายสินค้าอย่างแน่นอนจึงเป็นจังหวะที่ดีที่ร้านค้าแบบออฟไลน์จะหันมาให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์อย่างเต็มที่
ที่มา https://www.prachachat.net
No Comments