ไม่มีเน็ต สาวถูกพนักงานร้านดังมองเหยียด บอกแค่ต้องการบริการที่เท่าเทียม

สาวโพสต์ประสบการณ์ พนักงานร้านดังมองเหยียด หลังมือถือไม่มีเน็ตเพื่อสแกนสั่งอาหาร บอกแค่ต้องการบริการที่เท่าเทียม ถึงร้านจะเปลี่ยนระบบ แต่สิ่งที่ไม่ควรเปลี่ยน คือการบริการที่ดี

วันที่ 12 ธ.ค. 66 กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียล เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก “พิมพ์ ภัส” ได้โพสต์ข้อความลงในกลุ่ม “พวกเราคือผู้บริโภค” แสดงความคิดเห็นหลังจากไปทานชาบูร้านดัง สาขาหนึ่ง พร้อมระบุว่า “เราไปรอบนี้ไม่ได้ติดตามเพจว่าเขาใช้ระบบออนไลน์แล้ว ซึ่งส่วนตัวไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่ได้เติมไปเพราะปกติใช้เน็ตบ้าน ปกติไปทานรอบก่อนๆ ก็ใช้ใบในการสั่ง เราเลยไปขอใบเมนูเพื่อสั่งอาหาร เราเรียกพนักงาน พนักงานทำหน้าไม่ค่อยพอใจ แล้วพูดออกเชิงตะคอกว่า สแกนสั่งได้เลยนะครับ เราเลยแจ้งไปว่า ไม่มีอินเตอร์เน็ตค่ะ สั่งไปรอบแรก ของไม่ครบ สั่งอีกอย่างได้อีกอย่าง

สั่งสามชั้น ได้สันคอสไลด์ รอบสองพนักงานคนใหม่บอก เราก็ตอบแบบเดิมว่าไม่มีเน็ตค่ะ พนักงานมองเหยียดค่ะ เราไม่คอยพอใจ แต่ไม่ได้แสดงสีหน้า แต่ก็บ่นกับตัวเอง คือเรามองว่า การบริการมันควรเตรียมพร้อมทั้งออน์ไลน์และออฟไลน์ ไม่ใช่เห็นลูกค้าสั่งแบบใบเมนูแล้วชักสีหน้าใส่ ทั้งได้ของไม่ครบ ทั้งเกิน เราเซ็งมาก เพราะไปทานเดือนละหลายรอบปกติก็บริการดี แต่แบบนี้ไม่ไหว เห็นไม่มีเน็ตก็บริการดีๆหน่อยก็ได้ มาระบายเฉยๆค่ะ”

ทั้งนี้หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก อาทิ ร้านควรมี wifi ให้ลูกค้านะคะ แต่เคยไปทานร้านแบบสแกนเมนู แล้วแบตใกล้หมด นี่ลุ้นสุดว่าจะสั่งทันม้ายยยย, แค่ไม่มีเน็ต เลยโดนพนักงานมองเหยียด…..นึกว่ามีแต่ในละครคุณธรรม ตาม facebook ซะอีก, ทำไมเราต้องเปลืองแบตโทรศัทพ์ตัวเองในการสั่งอาหารด้วย บางทีแบตเหลือน้อย เก็บไว้ใช้เผื่อจำเป็น ฯลฯ

จากการสอบถาม คุณปาล์ม เจ้าของโพสต์ ทราบว่า วันนั้นตัวเองไปรับประทานชาบูกับแฟน ตอนที่พนักงานทำกิริยาไม่ดีใส่ ตนกับแฟนก็ได้แต่มองหน้ากัน ไม่อยากโวยวาย อยากรีบกินแล้วกลับมากกว่า ซึ่งปกติเรากินที่สาขานี้บ่อย เดือนละ 2-3 ครั้งได้ การบริการก็ดีมาตลอด แต่รอบนี้ไม่ทราบว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้เหมือนกัน ส่วนตัวคิดว่า เขาอาจจะมองว่าเราแกล้ง มีโทรศัพท์จะไม่มีอินเทอร์เน็ตได้อย่างไร

โดยจุดประสงค์ที่เราออกมาโพสต์ คืออยากให้บริการให้เท่าเทียม ควรเตรียมความพร้อมในการบริการทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะมีอินเทอร์เน็ตที่พร้อมในการใช้บริการขนาดนั้น ถ้าหากมีระบบแบบนี้ ร้านควรมีไวไฟไว้บริการด้วย 

อีกอย่าง ในฐานะผู้ให้บริการ ไม่ว่าจะเหนื่อย ไม่พอใจอะไรลูกค้า ก็ควรเก็บอารมณ์ให้ได้ ไม่งั้นผลที่ตามมาก็จะเป็นแบบนี้ ลูกค้าบางท่านอาจจะโวยวายต่อหน้า หรือถ่ายคลิป ถึงร้านจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่ไม่ควรเปลี่ยน คือ การบริการที่ดี ไม่ควรทำแบบนี้ ไม่ว่าจะกับใคร

ซึ่งหลังจากที่โพสต์ของตนเองกลายเป็นไวรัล ตนได้มีการทักทางเพจไป เพื่อชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนแล้ว ซึ่งทางผู้จัดการร้านสาขาดังกล่าวก็ติดต่อมาขอโทษ และชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมทำการเตือนพนักงานคนดังกล่าวแล้ว.

ที่มา thairath.co.th