“ตํารวจสอบสวนกลาง” สนธิกําลังร่วม “กรมสรรพสามิต” บุกค้นแหล่งซุกซ่อนบุหรี่เถื่อน เครือข่ายรายใหญ่ย่านธนบุรี ยึดรถยนต์ 1 คัน-บุหรี่หลากหลายยี่ห้อกว่า 6 พันซอง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 66 ตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ภายใต้การอํานวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผกก.2 บก.ปอศ. และ พ.ต.ท.วันเผด็จ จันยะรมณ์ รอง ผกก.2 บก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนําโดย พ.ต.ต.วรรณลพ รัตนวงษ์ สว.กก.2 บก.ปอศ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 3 กก.2 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต ร่วมกันจับกุม นายยศบดินทร์ อายุ 20 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทําความผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจําหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อรับจํานําหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเข้า มาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร” อันเป็นความผิดตาม มาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 และมีความผิดตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มาตรา 203 ประกอบมาตรา 204 “ผู้ใดมีไว้ในครอบครองโดยไม่มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายซึ่งสินค้าที่ ได้รับยกเว้นหรือได้รับคืนภาษีแล้วหรือผู้ใดขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือ เสียภาษีไม่ครบถ้วน” ซึ่งของกลางที่ตรวจพบ 1. รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจํานวน 1 คัน และ 2. บุหรี่ที่มีแหล่งกําเนิดมาจากต่างประเทศหลากหลายยี่ห้อ จํานวน 6,790 ซอง รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้น 6,396,180 บาท
โดยพฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตํารวจได้รับแจ้งจากประชาชนว่า บริเวณกลางซอยพุทธมณฑลสาย 1 แยก 5 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร มีรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล สีขาว มีพฤติการณ์ลักลอบจําหน่ายสินค้าประเภทบุหรี่นําเข้าหลากหลายชนิดและยี่ห้อ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีแหล่งกําเนิดจากต่างประเทศ ให้กับกลุ่มร้านค้าปลีกและบุคคลในพื้นที่ โดยอ้างว่าสินค้าที่ขายเป็นสินค้านําเข้ามาจากต่างประเทศ และขายในราคาถูกกว่าท้องตลาดมาก โดยจะมีการจําหน่ายสินค้าให้แก่ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม และจะใช้วิธีเก็บสินค้าไว้บนรถยนต์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับรถ Truck Food เพื่อหลบสายตา เจ้าหน้าที่และหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม ซึ่งเป็นพฤติกรรมรูปแบบใหม่ของผู้ต้องหา ต่อมา เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้ลงพื้นที่เพื่อสืบสวนและติดตามพฤติกรรมพบว่า มีกลุ่มบุคคลจะนํารถยนต์มาจอดและจะมีวัยรุ่นชายขับรถจักรยานยนต์มารับของ เพื่อนําออกมาจําหน่าย ซึ่งเป็นเครือข่ายเดียวกับผู้ต้องหารายใหญ่ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตํารวจจับกุมไปเมื่อเดือน ก.ค. 66 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงเข้าแสดงตัวและจับกุมผู้ต้องหาพร้อมตรวจยึดของกลาง จากนั้นนําส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. เพื่อดําเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย จากการสอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ที่มา : thairath.co.th
No Comments