สัญญาณอสังหาฯ ปี67‘ทรงตัว-ติดลบ’มรสุมรุมเร้าดอกเบี้ย-ค่าแรง-ต้นทุน-แบงก์เข้มปล่อยสินเชื่อ-กำลังซื้อถดถอย” หวั่นวิกฤติหุ้นกู้ ลุกลาม บิ๊กคอร์ป ย้ำรักษาสภาพคล่อง บริหารสต็อก กำเงินสด ปรับกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้านักลงทุน ต่างชาติ หันเจาะดีมานด์ใหม่เมืองท่องเที่ยว
อสังหาริมทรัพย์ปี 2567 ยังคงเผชิญปัจจัยเสี่ยงรอบทิศทาง ทั้งภาวะต้นทุนสูงจากอัตราดอกเบี้ย ค่าแรง เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดี ขณะที่ กำลังซื้อฐานรากอยู่ในสภาวะถดถอยต่อเนื่อง ทำให้สถาบันการเงินคุมเข้มสินเชื่อทั้งในฝั่ง “ผู้ซื้อ” และ “ผู้ขาย” ที่กำลังถูกจับตาถึงแนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้จะขยายตัวลุกลามมากน้อยแค่ไหน
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ปี 2567 มีปัจจัยลบจำนวนมาก สมการกระตุ้นเศรษฐกิจตัว “G” หรือการใช้จ่ายของภาครัฐหายไป จากงบประมาณรายจ่ายที่ล่าช้า ประกอบกับกำลังซื้อลูกค้าหลัก “จีน” หายไปทำให้ขาดโมเมนตัม นอกจากนี้นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ยังไม่มีความคืบหน้า หากไม่สามารถทำได้จะขาดแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจหายไปอีก 5 แสนล้านบาท ขณะที่รายได้ของประชาชนไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เครื่องยนต์ใหญ่ การส่งออกไม่ดี การท่องเที่ยวไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ จึงมีค่าใช้จ่ายต่อหัวนักท่องเที่ยวลดลง
“กำลังซื้อไทยยังไม่ฟื้น กำลังซื้อต่างชาติไม่มา ปัจจัยบวกทางเศรษฐกิจไม่มี ทำให้หลายคนประเมินว่า อสังหาฯ ปี 2567 ยังคงไม่ดี หรืออาจแย่อีกรอบหนึ่ง”อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าภาพรวมเศรษฐกิจปี 2567 ยังไปต่อได้ หากรัฐบาลสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง ในภาคอสังหาฯ คนยังมีความต้องการกู้เงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยตลอดเวลา
ฝั่งผู้ประกอบการ ที่ผ่านมาเผชิญภาวะยอดขายลดลง ขณะที่การขายคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่เป็นการขายกลุ่มนักลงทุนมากขึ้น ส่วนคอนโดอยู่อาศัยขาย “ลดลง” ดังนั้นแนวทางพัฒนาโครงการต้องปรับเปลี่ยนหันเจาะกลุ่มลงทุนมากขึ้น รวมทั้งดึงพันธมิตรนักลงทุนไทยและต่างชาติมาร่วมขับเคลื่อนธุรกิจ
“อสังหาฯ หลายบริษัทหันพัฒนาโครงการในทำเลมหาวิทยาลัยมากขึ้น เพื่อจูงใจคนซื้อเพื่อลงทุน สามารถปล่อยเช่าได้ หรือบริหารการเช่าให้เพื่อเป็น Passive Income ทำให้ตลาดยังคงไปต่อได้”
จะเห็นว่า ผู้ประกอบการอสังหาฯ ต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อรับมือปัจจัยเสี่ยงต่างๆ หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญคือการขยายตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวและเมืองเศรษฐกิจต่างๆ เช่น ภูเก็ต ขอนแก่น เชียงใหม่ เป็นต้น
www.bangkokbiznews.com
No Comments