Meta ร่วมกับ Bain & Company ศึกษาเทรนด์ผู้บริโภคในปัจจุบันและอนาคตทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วย วันนี้ siamtoday จึงพามาดูเทรนด์ที่จะส่งผลต่อทิศทางธุรกิจในปัจจุบัน ตลอดจนเป้าหมาย โอกาสในการเติบโตปีนี้จะมีอะไร
5 เทรนด์ธุรกิจหลักในตลาดประเทศไทยที่จะมาแรงในปี 2567 ประกอบด้วย
1. เทคโนโลยี AI
ในปี 2566 ที่ผ่านมาเทคโนโลยี AI ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นปีแห่งการพัฒนาเทคโนโลยี Generative AI โดยมีการคาดการณ์ว่าการนำ AI มาใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลกจะยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี พ.ศ. 2567 และในอนาคต
จากการที่วงการการตลาดและครีเอทีฟได้นำเทคโนโลยี Generative AI มาทดลองใช้ในหลากหลายขั้นตอนการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่การเขียนคำโฆษณา (copywriting) ไปจนถึงการสร้างสรรค์แนวคิดเชิงครีเอทีฟในการเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น
2. อิทธิพลของ Gen Z
กลุ่มประชากร Gen คือประชากรที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2539 – พ.ศ. 2555 กำลังก้าวเข้าสู่วัยที่เริ่มมีรายได้ เงินออม และรายจ่าย ซึ่งในปัจจุบัน เฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มี Gen Z จำนวนกว่า 500 ล้านคน และในเวลาอีกไม่นาน ประชากรกลุ่มนี้จะมีอัตราส่วนถึง 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมดในภูมิภาค โดยจากการสำรวจพบว่า Gen Z จะกลายเป็นกลุ่มหลักที่ส่งอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์ที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย 82% กล่าวว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนออนไลน์อยู่แล้ว ส่วนใหญ่ใช้งาน Facebook , Messenger และ Instagram
3. การเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจของครัวเรือนแบบอยู่คนเดียว (Solo Economy)
กล่าวคืออัตราการอยู่คนเดียวกำลังเพิ่มมากขึ้นทั่วทุกภูมิภาคในปัจจุบัน สำหรับประเทศไทยเองมีการคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการอาศัยอยู่คนเดียวเพิ่มขึ้นถึง 20% ภายในปี พ.ศ. 2573 ซึ่งแนวโน้มนั้นจะส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นความต้องการด้านสินค้า อุปโภค บริโภค หรือสิ่งต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน จึงทำให้ความต้องการซื้อสินค้าขนาดเล็กจะเพิ่มสูงขึ้นและมีความถี่มากขึ้น และในอนาคต จะมีกลุ่มลูกค้าที่ใช้เวลาบนโลกออนไลน์มากขึ้นในการติดตามครีเอเตอร์ รวมไปถึงการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนบนโลกออนไลน์
4. การส่งข้อความเชิงธุรกิจ (Business Messaging)
ในแต่ละวันมีการข้อความบน Meta มากกว่า 600 ล้านข้อความต่อวัน ในประเทศไทยเอง การส่งข้อความเชิงธุรกิจยังเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องอย่างสูง โดยจากผลสำรวจเผยว่า 81% ของคนไทยรู้สึกใกล้ชิดกับธุรกิจมากขึ้น เมื่อพวกเขาสามารถส่งข้อความหาธุรกิจได้โดยตรง และมีกว่า 78% ของคนไทยที่ใช้เวลาอยู่บนโลกออนไลน์ส่งข้อความหาธุรกิจอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีการให้บริการเครื่องมือและบริการใหม่ ๆ ผ่านการฟีเจอร์ส่งข้อความ เช่น เป็นการจองการเดินทาง การส่งปฏิทินนัดหมาย และการซื้อสินค้า นอกจากนี้ เทคโนโลยี AI บนระบบแชตก็จะมีความชาญฉลาดมากยิ่งขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
5. วิดีโอขนาดสั้น
หรือ Reels ที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลกเป็นคอนเทนต์บนอินเทอร์เน็ตที่ให้ผู้ใช้งานถ่ายคลิปสั้น ๆ จากการสำรวจผู้บริโภคที่มีอายุระหว่าง 13-64 ปี ในภูมิภาคเมื่อเร็วๆ นี้ โดยทีมวิจัยการตลาดธุรกิจและธุรกิจอัจฉริยะ (Business Marketing Research and Intelligence) ร่วมกับองค์กรวิจัย Factworks พบว่าผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z มีแนวโน้มที่จะติดตามธุรกิจมากขึ้น 77% แท็กแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ 72% หรือซื้อสินค้า 72% หลังจากการรับชม Reels นอกจากนี้ 84% ของผู้ตอบแบบสำรวจในภูมิภาคยังเคยแชร์ Reels ให้กับเพื่อนหรือครอบครัวอีกด้วย ในอนาคตการใช้งานคลิปวิดีโอขนาดสั้นจะนำพาให้ตลาดธุรกิจไปไกลกว่าเดิม
การสร้างคุณค่าให้แบรนด์ และเข้ามามีอิทธิพลในตลาดการค้า เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมาย Gen Z หรือกลุ่มประชากรที่อาศัยอยู่คนเดียว ตลอดจนมีการนำ AI เข้ามาช่วยในการพัฒนา ย่อมทำให้ธุรกิจมีการเติบโตมากขึ้น
ในปี 2567 นี้ เทรนด์เหล่านี้จะเข้ามาเพื่อช่วยให้ธุรกิจของประเทศไทยสามารถเข้าสู่ตลาดสากลได้หรือไม่ หรือทำให้ธุรกิจของไทยมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป
ข้อมูลจาก: กรุงเทพธุรกิจ
บทความโดย แอดมินเนส
No Comments