“เมื่อพิจารณาเหตุผลและข้อมูลของบริษัทฯ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บีโอไอจึงเห็นว่า การขยายเวลาในการส่งเอกสารเพื่อออกบัตรส่งเสริมครั้งที่ 3 จะช่วยให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งบริษัทฯ อีอีซี และ รฟท. มีระยะเวลาพอสมควรในการเจรจาหาข้อสรุปร่วมกัน จึงได้พิจารณาให้ขยายเวลาออกไปอีก 4 เดือน จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 22 ม.ค.67 ทำให้บริษัทฯ มีเวลาในการส่งเอกสารจนถึงวันที่ 22 พ.ค.67”
หลังจากนั้นบีโอไอได้ทำหนังสือสอบถามความเห็นจากทั้งอีอีซี และ รฟท. ซึ่งให้ความเห็นว่า ความล่าช้าของโครงการจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่อีอีซี และความเชื่อมั่นของนักลงทุน อีกทั้งการเจรจาแก้ไขสัญญาร่วมทุนฯ ไม่มีผลต่อการขอรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จึงควรเร่งรัดให้บริษัทฯ ส่งเอกสารเพื่อออกบัตรส่งเสริมโดยเร็ว และไม่ควรขยายเวลาออกไปอีก บีโอไอจึงมีคำสั่งไม่อนุมัติให้ขยายเวลาตามความเห็นของทั้งสองหน่วยงาน เพื่อเร่งรัดให้รีบยื่นเอกสารภายในกำหนดเวลา
ต่อมา บริษัทฯ ไม่ได้ส่งเอกสารตามเวลาที่กำหนด และได้ยื่นขออุทธรณ์ โดยให้เหตุผลว่า การเจรจาเงื่อนไขในสัญญาร่วมทุนฯ ระหว่างอีอีซี รฟท. และบริษัทฯ เป็นเรื่องสำคัญที่จะส่งผลต่อการจัดหาเงินทุนของโครงการ จำเป็นต้องขอเวลาเพิ่มเติมเพื่อหารือกับทั้งสองหน่วยงานให้แล้วเสร็จ จึงขอให้บีโอไอพิจารณาทบทวนคำสั่งดังกล่าว หลังพูดคุยกับทุกฝ่ายแล้วบีโอไอจึงมีคำสั่งให้ขยายเวลาการส่งเอกสารออกบัตรส่งเสริมอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้ายตามที่ พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุน ให้อำนาจไว้ เพื่อเปิดทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หารือแก้ไขปัญหาต่างๆ ร่วมกัน
ที่มา: RYT9
admin : beer
No Comments