วัคซีน ป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) สามารถลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้เกือบ 90%
ขณะที่โรคมะเร็งปากมดลูก ถือเป็นโรคมะเร็งอันดับที่ 4 ที่คร่าชีวิตผู้หญิงทั่วโลกในแต่ละปีมากกว่า 300,000 คน
วัคซีน HPV ป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกอย่างไร
วัคซีน HPV สามารถป้องกันเชื้อไวรัส HPV ได้ 9 สายพันธุ์ เช่น สองสายพันธุ์ที่เป็นสาเหตุการป่วยเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก, มะเร็งทวารหนัก, มะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์ และมะเร็งศีรษะและลำคอ
ผลการศึกษายังพบอีกว่า วัคซีนดังกล่าวสามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV ได้อย่างต่ำ 10 ปี แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่งคาดว่า ระยะการป้องกันอาจจะยาวนานกว่านั้น
นอกจากนี้ งานวิจัยยังระบุอีกว่า วัคซีนนี้สามารถลดอัตราการเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกได้เกือบ 90%
ใครบ้างที่สามารถฉีดวัคซีน HPV
วัคซีน HPV ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดในทั้งผู้หญิงและผู้ชาย หากได้รับวัคซีนนี้ก่อนการติดเชื้อไวรัส HPV เนื่องจากวัคซีนสามารถป้องกันการติดเชื้อเท่านั้น โดยไม่สามารถทำให้ร่างกายปลอดเชื้อโรคนี้ได้ หากได้รับเชื้อมาก่อนแล้ว
อย่างไรก็ตาม การระบาดของโรคนี้ในปัจจุบันเป็นไปอย่างกว้างขวาง ดังนั้น การสร้างภูมิคุ้มกันจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับกลุ่มเด็กก่อนที่พวกเขาเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์
องค์การอนามัยโลกระบุว่า การฉีดวัคซีนนี้อาจจะต้องใช้ราว หนึ่งถึงสองโดส ส่วนคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันลดลงควรได้รับวัคซีน 2-3 โดส
อะไรคือ ไวรัส HPV
HPV ย่อมาจาก human papillomavirus (ฮิวแมน ปาปิลโลมา ไวรัส) เป็นกลุ่มไวรัสที่พบกันทั่วไป มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ สามารถพบได้บนฝ่ามือ, เท้า, อวัยวะสืบพันธุ์ หรือแม้แต่ภายในช่องปาก เมื่อติดเชื้อแล้วก็อาจจะไม่พบอาการใด ๆ แต่ก็มีเพียงบางสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดหูดตามร่างกาย
อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่จะไม่ทราบว่า ตัวเองติดเชื้อหรือรับรู้ได้ว่า บนร่างกายจะสามารถจัดการกับไวรัสนี้ออกไปได้เองโดยไม่ต้องรับการรักษา
แต่ในกรณีสายพันธุ์ไวรัส HPV ที่มีความเสี่ยงสูง หากรับเชื้อไปก็สามารถทำให้เนื้อเยื่อเติบโตผิดปกติและนำไปสูการเกิดมะเร็งได้
ใครบ้างที่ได้รับเชื้อไวรัส HPV และติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือไม่
เชื้อไวรัสนี้ติดต่อกันได้โดยง่าย ผ่านการสัมผัสทางผิวหนัง และพบว่า ราว 80% ของผู้ติดเชื้อไวรัส HPV นี้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป
ส่วนใหญ่มักจะติดเชื้อยาวนานราว 8 เดือนถึง 2 ปี
ในทางเทคนิคแล้ว การติดเชื้อไวรัส HPV ไม่จัดว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เนื่องจากไม่ได้ติดต่อกันจากสารคัดหลั่ง ในลักษณะเดียวกับกับโรคหนองใน
อย่างไรก็ตาม บ่อยครั้งการได้รับเชื้อไวรัส HPV ก็เกิดขึ้นระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากการสัมผัสซึ่งกันและกัน
แหล่งที่มา: bbc
Admin:Nam
No Comments