• 21 November 2024

ท่ามกลางการแข่งขันอย่างดุเดือดในอุตสาหกรรม EV ที่เกิดขึ้นทั่วโลก การที่ประเทศไทยมีเป้าหมายที่จะขึ้นเป็นฮับผลิต EV ของอาเซียน ไม่ได้เป็นเพียงความฝัน แต่สิ่งนี้จะสร้างการเติบโตใหม่ให้กับเศรษฐกิจไทย และเปลี่ยนผ่านภาคอุตสาหกรรมในอนาคต

ในงานประชุม ASEAN Battery Technology Conference 2024 (ABTC 2024) ซึ่งเป็นความร่วมมือระดับอาเซียน จัดขึ้นที่สิงคโปร์เมื่อไม่นานมานี้ ภายในงานได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญ ผู้นำอุตสาหกรรม และนักวิจัยด้านแบตเตอรี่จากทั่วโลก เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ฃ

Thairath Money เข้าร่วมงานเรียนรู้พัฒนาการและความก้าวหน้าของเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงาน ดังนั้นในบทความนี้จึงได้ถ่ายทอดมุมมองและบทสรุปจากการประชุมครั้งนี้ เพื่อตอบคำถามสำคัญว่าทำไมการพัฒนาอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ถึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะพาไทยไปสู่การเป็นฮับ EV ในอาเซียน และอะไรที่ไทยต้องทำเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมนี้ให้ก้าวไปข้างหน้าในเวทีโลก

ดร.พิมพ์พา ลิ้มทองกุล นายกสมาคมเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานไทย (TESTA) ให้มุมมองกับ Thairath Money ว่า รัฐบาลได้เริ่มต้นด้วยการใช้กลยุทธ์ Demand Push เพื่อกระตุ้นตลาดยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างดี โดยการให้เงินสนับสนุน เพื่อทำให้ราคาของยานยนต์ไฟฟ้าสามารถแข่งขันกับรถยนต์สันดาปได้ ส่งผลให้ยานยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในตลาดผู้บริโภค แต่สำหรับการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนจริงจังในภาคส่วนนี้ยังต้องมีการสนับสนุนในหลายด้าน

โดยหนึ่งในความท้าทายสำคัญคือ การเปลี่ยนแปลงมุมมองของผู้บริโภคคนไทยให้ยอมรับและใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแค่ซื้อครั้งเดียวแล้วหยุด ดังนั้นรัฐบาลจึงจำเป็นต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยในการใช้งาน มาตรฐานในการจัดการแบตเตอรี่ที่หมดอายุ และอาจต้องออกกฎหมายเพิ่มเติมเพื่อสร้างความมั่นใจในตลาด รวมถึงการสนับสนุนตลาดมือสองให้มีการยอมรับอย่างกว้างขวางด้วย

ในช่วงแรก รัฐบาลสามารถดึงดูดผู้ซื้อด้วยการเสนอราคาที่แข่งขันได้และประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *