การออกแบบทางสถาปัตยกรรมของประเทศไทยยังคงตอบสนองความต้องการของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีการผสมผสานนวัตกรรม, ความยั่งยืน และการให้ความสำคัญกับมรดกทางวัฒนธรรมอย่างลงตัว
เช่นเดียวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ใหญ่หลายแห่งในภูมิภาคนี้ ซึ่งยังคงให้ความสำคัญเกี่ยวกับประเด็นของความยั่งยืนโดยมุ่งเน้นที่การปฏิบัติตามหลักการประหยัดพลังงาน, โครงสร้างพื้นฐานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการใช้ประโยชน์จากงานสถาปัตยกรรมที่มีอยู่ ปรับปรุงให้สามารถนำมาใช้ใหม่ได้
โดยสถาปนิกมีความพยายามที่จะผสมผสานธรรมชาติให้เข้ากับการงานออกแบบของพวกเขา เพื่อสร้างการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอก
การนำเทคโนโลยีอัจฉริยะเข้ามาใช้กับงานสถาปัตยกรรมก็เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและประสิทธิภาพให้กับโครงการนั้น ๆ ซึ่งโครงการที่เป็นแบบผสมผสานพื้นที่ในการใช้งานที่หลากหลาย เช่น พื้นที่อยู่อาศัย, พื้นที่เชิงพาณิชย์ และพื้นที่พักผ่อน ซึ่งอยู่ภายในโครงการเดียวกันก็กำลังเป็นที่นิยมในการนำเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาใช้ด้วย
โดยโครงการเหล่านี้มักจะมีลักษณะการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่เรียบง่ายด้วยเส้นสายที่สะอาดตาและการใช้วัสดุจากธรรมชาติ สร้างสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและกลมกลืน
การอนุรักษ์มรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งในความต้องการที่กำลังเพิ่มมากขึ้น ซึ่งประสบความสำเร็จได้จากการปรับเปลี่ยนทรัพยากรที่มีอยู่แล้วแล้วเริ่มนำกลับมาใช้ใหม่
นอกจากนี้ โครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับพื้นที่สีเขียว เช่น สวนต้นไม้แนวตั้ง และการทำการเกษตรในเมือง มีส่วนช่วยเพิ่มสุขภาพที่ดีให้กับสภาพแวดล้อมภายในเขตเมืองให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ลองมาดู 7 โครงการอสังหาริมทรัพย์หลากหลายรูปแบบที่ได้รับรางวัลจากเวที PropertyGuru Thailand Property Awards ปี 2022 ซึ่งสะท้อนแนวความคิดเหล่านี้พร้อมการออกแบบระดับโลก
1. เทตต์ สาทร ทเวลฟ์ (Tait Sathorn 12) โดยบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน)
คอนโดมิเนียมสูง 40 ชั้น โดดเด่นไปด้วยการออกแบบของผนังที่มีความลาดเอียงสูงและแผงกระจกขนาดใหญ่ ซึ่งสะท้อนถึงความทันสมัยและละเอียดอ่อน พร้อมกับการใช้แผงกระจกที่มีการเคลือบฉนวนเพิ่มสไตล์ให้อาคารมีความเรียบหรู
โครงการตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ รูปแบบอาคารมีเส้นลาดเอียงที่โดดเด่นและหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่สูงตั้งแต่พื้นจนถึงเพดาน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีความเป็นเลิศไว้มากมาย เช่น สระว่ายน้ำแบบไร้ขอบ, ห้องสตีม, ฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ครบครัน, พื้นที่รับประทานอาหารส่วนตัว และศาลาชมพระอาทิตย์ตกดิน
ใส่ใจกับการออกแบบทิวทัศน์และบรรยากาศที่สร้างสรรค์โดยการผสมผสานพื้นที่สีเขียวในทุก ๆ ชั้น เน้นความลาดเอียงที่เปิดรับมุมมองแบบพาโนรามา มีการปลูกพืชเขตร้อนผสมผสานกับอาคารบนชั้นของผู้อยู่อาศัย ทำให้รู้สึกเหมือนการนำธรรมชาติมาอยู่ใกล้ตัวมากขึ้น
ในขณะที่ชั้นบนสุดมีการปลูกพืชพันธุ์ไม้แบบแขวนกับผนังที่มีลักษณะคล้ายกับ ’น้ำตกสีเขียว’ เป็นแหล่งพักผ่อนกลางธรรมชาติที่เงียบสงบริมสระว่ายน้ำแบบไร้ขอบ ซึ่งจากการออกแบบทั้งหมดนี้ทำให้คณะกรรมการผู้ตัดสินของ PropertyGuru Thailand Property Awards ในปี 2022 ตัดสินใจมอบรางวัล Best Luxury Condo Architectural Design ให้กับโครงการนี้
2. เรฟเฟอเรนซ์ สาทร-วงเวียนใหญ่ (Reference Sathorn-Wongwianyai) โดยบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
หนึ่งในบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยอย่างบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รับแรงบันดาลใจจากดินแดนของสรวงสวรรค์ในการออกแบบโครงการ เรฟเฟอเรนซ์ สาทร-วงเวียนใหญ่ (Reference Sathorn-Wongwianyai)
โครงการมีแนวคิดในการออกแบบภายใต้ธีม ”ดวงจันทร์” ซึ่งมีการนำรูปทรงของดวงจันทร์มาใช้ในการตกแต่งพื้นที่ส่วนต่าง ๆ และใช้โทนสีที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของวงโคจรของดวงจันทร์มาใช้ในการออกแบบด้วย
ยกตัวอย่างเช่น จันทรุปราคา, ข้างขึ้น-ข้างแรม และพระจันทร์เต็มดวง เป็นต้น อย่างบริเวณพื้นที่ล็อบบี้จะเป็นตัวแทนของพระจันทร์เต็มดวง โดยตกแต่งด้วยโทนสีขาว และใช้สีอื่น ๆ ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์
โครงการนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็น Best Mid End Condo Architectural Design จากงาน PropertyGuru Thailand Property Awards ในปี 2022 ด้วยความโดดเด่นในการ ”เปลี่ยนพื้นที่ที่ดูธรรมดาให้กลายเป็นพื้นที่ที่สุดแสนพิเศษผ่านการเล่าเรื่องราวทางงานสถาปัตยกรรม”
นอกจากนี้ ทางบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ยังได้รับรางวัล Best Developer and Special Recognition จาก ESG (การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย Environmental, Social และ Governance) ในปี 2022 ด้วย
การจัดวางพื้นที่ภายนอกบ้านไว้เป็นอย่างดีแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจที่จะเสริมสร้างความสะดวกสบายและการผสมผสานของธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกัน เมื่อผู้อยู่อาศัยเดินทางมาถึงบ้านก็จะได้พบกับสภาพแวดล้อมที่เขียวขจี พร้อมกับม่านน้ำตกที่สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น
โดยมีการแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็น “Play Yard” และ “Cresent Pavilion” เน้นการเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่และเวลา และบนชั้นดาดฟ้าได้มีการออกแบบ ”Grotto Pool” ซึ่งผสมผสานธรรมชาติและสถาปัตยกรรมรอบ ๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่สมดุลและอบอุ่น
3. วอเตอร์ฟอล ไฮทส์ อ่าวป่าตอง (ภูเก็ต): Waterfall Heights, Patong Bay (Phuket) โดยบริษัท พร็อพเพอตี้ สโตร์ ไทยแลนด์ จำกัด
โครงการวอเตอร์ฟอล ไฮทส์ อ่าวป่าตอง (ภูเก็ต) รวบรวมของแนวคิดการออกแบบที่เน้นการใช้วัสดุธรรมชาติและความยั่งยืน นั่นคือเหตุผลที่ทำให้โครงการได้รับรางวัล Best Condo Architectural Design (ภูเก็ต) จากงาน PropertyGuru Thailand Property Awards ในปีที่แล้ว และได้รับรางวัล Highly Commended ในประเภท Best Condo Interior Design โดยผสมผสานงานฝีมือของช่างท้องถิ่นเข้ากับงานศิลปะท้องถิ่นเพื่อนำมาสร้างสรรค์ในสถาปัตยกรรม
พื้นที่ใช้สอยแบบเปิดโล่ง ตกแต่งด้วยประตูบานเฟี้ยมที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของอ่าวป่าตอง สวนที่ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน สายน้ำที่น่าดึงดูดใจ
รวมทั้งอีกหนึ่งจุดเด่นอย่างระเบียงที่ยื่นออกมาจากคอนโดคืออีกหนึ่งจุดก็คือที่การทำระเบียงที่ยื่นออกมาจากตัวห้องที่ผสมผสานกับภูมิประเทศรอบข้างได้อย่างลงตัว ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างการเชื่อมต่อโดยตรงกับธรรมชาติด้านนอกเท่านั้น แต่ยังเป็นทางเชื่อมต่อส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยเพื่อเข้าสู่สระว่ายน้ำแบบไร้ขอบได้อีกด้วย
4. 125 สาทร (125 Sathorn) โดยบริษัท พีเอ็มที พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
พื้นที่ภายในโครงการ 125 สาทร (125 Sathorn) ซึ่งเป็นอาคารแฝดสูง 36 ชั้น ถูกออกแบบเพื่อแสดงถึงความรู้สึกของอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงของธรรมชาติและฤดูกาล ด้วยการเลือกใช้สีและวัสดุที่ถูกคัดสรรมาจากธรรมชาติเพื่อใช้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ
โดยในแต่ละพื้นที่จะถูกแสดงถึงลักษณะเฉพาะของห้องโถงที่ได้รับการตกแต่งด้วยหน้าต่างบานใหญ่แบบสูงตั้งแต่พื้นถึงเพดานที่มองออกไปสู่ส่วนกลาง ให้บรรยากาศอบอุ่นและใกล้ชิด เสริมด้วยแนวคิดในการออกแบบโถงแบบพาวิลเลียน กระจกและเพดานสูง สร้างความรู้สึกเปิดกว้างและเชื่อมโยงกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ
โครงการ 125 สาทร (125 Sathorn) ได้รับการยกย่องในฐานะ Best Condo Interior Design และ Best Luxury Condo Landscape Architectural Design จากงาน PropertyGuru Thailand Property Awards ในปีที่ผ่านมา ซึ่ง 125 สาทรได้สร้างความประทับใจให้กับคณะกรรมการผู้ตัดสินด้วย ”บรรยากาศการตกแต่งภายในที่แสดงถึงความอบอุ่น ผ่านความหรูหราของสีทอง สีทองแดง และการใช้แสงที่น่าดึงดูดใจ”
การพัฒนาพื้นที่โครงการกว่า 4,500 ตารางเมตรนี้ยังถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่สงบสุขกลางแสงสีของเมืองที่พลุกพล่าน, พื้นที่สีเขียว, ลานกว้างภายใน และสวนหลังบ้าน มอบโอกาสในการผ่อนคลายและเติมพลังให้แก่ผู้อยู่อาศัย
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สีเขียวและเสียงน้ำไหลเบาบางที่สร้างสรรค์พื้นที่ที่เงียบสงบ ในขณะเดียวกัน สวนต้นไม้เขตร้อนที่เติบโตผสมผสานกับน้ำพุรอบ ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เอาไว้หลีกหนีความวุ่นวายจากวิถีชีวิตในเมืองที่เร่งรีบได้เป็นอย่างดี
5. เดอะซิตี้ ปิ่นเกล้า-บรมฯ 3 (The City Pinklao-Borom 3) โดยบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
โครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ที่โดดเด่นด้วยจุดขายที่ไม่เหมือนใคร (Unique Selling Point: USP) มีล็อบบี้ ซึ่งเป็นห้องโถงเพดานสูง ที่ออกแบบให้สวยงาม สง่างาม และเสริมบรรยากาศให้กับผู้อยู่อาศัยเหมือนได้รับการต้อนรับที่น่าประทับใจทุกครั้งที่ได้กลับบ้าน
ความใส่ใจในรายละเอียดอย่างพิถีพิถันแสดงออกมาในงานสถาปัตยกรรมและการออกแบบของโครงการ เดอะซิตี้ ปิ่นเกล้า-บรมฯ 3 (The City Pinklao-Borom 3) องค์ประกอบคลาสสิกผสมผสานกับหลักการออกแบบร่วมสมัย สร้างสมดุลระหว่างความมีเสน่ห์ของความคลาสสิกและความทันสมัยได้อย่างลงตัว
เดอะซิตี้ ปิ่นเกล้า-บรมฯ 3 (The City Pinklao-Borom 3) ได้รับรางวัล Best High-End Housing Architectural Design ในงาน PropertyGuru Thailand Property Awards ปี 2022 โดยทางคณะกรรมการผู้ตัดสินให้ความเห็นว่า “บ้านเดี่ยวที่แสดงออกถึงความโอ่อ่า หรูหรา สะท้อนรูปแบบบ้านสไตล์ยุโรปได้อย่างสวยงาม”
นอกจากนี้ ทางบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ยังได้รับรางวัล Highly Commended ในประเภทเดียวกัน กับอีกหนึ่งโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นคือ เดอะซิตี้ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า (The City Charan-Pinklao)
6. เวนิว ไอดี มอเตอร์เวย์-พระราม 9 (Venue ID Motorway-Rama 9) โดยบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
หมู่บ้านของชาวประมงในหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) ที่อยู่ในภูเขาสูงของประเทศนอร์เวย์ คือแนวความคิดในการออกแบบที่สำคัญของโครงการเวนิว ไอดี มอเตอร์เวย์-พระราม 9 (Venue ID Motorway-Rama 9)
คลับเฮ้าส์สีแดงสดใสของโครงการและการออกแบบด้วยระเบียงที่มีหลังคาปกคลุมสร้างร่มเงาให้กับบ้านบริเวณพื้นที่ด้านนอก ในขณะที่ห้องครัวถูกออกแบบให้เชื่อมต่อไปสู่พื้นที่รับประทานอาหาร และองค์ประกอบอื่น ๆ ที่ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อสร้างบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ
โดยโครงการได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ เช่น ภูเขา Higravstinden เป็นแรงบันดาลใจสำหรับทางเข้าหลัก ในขณะที่ The Aurora Pavilion ถูกออกแบบโดยให้นึกถึงบรรยากาศของแสงเหนือที่สวยงามและครอบคลุมพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดเพื่อสร้างบรรยากาศที่มีเสน่ห์น่าหลงไหล
ในขณะเดียวกัน พื้นที่ของห้องครัวไม่ได้เป็นเพียงแค่พื้นที่สำหรับทำอาหารเท่านั้น แต่ด้วยขนาดที่กว้างขวางจึงสามารถใช้ในการฝึกฝนการเป็นเชฟในการทำอาหาร, จัดงาน Chef’s Table หรือแม้กระทั่งสร้างรายได้จากการขายอาหารออนไลน์ได้อีกด้วย
ทั้งนี้ ทางโครงการเวนิว ไอดี มอเตอร์เวย์-พระราม 9 (Venue ID Motorway-Rama 9) ได้รับรางวัล Best Mid-End Housing Architectural Design จากงาน PropertyGuru Thailand Property Awards ปี 2022
7. พานารา เทพารักษ์ (Panara Thepharak) โดยบริษัท ฟัลครัม เวนเจอร์ เอเชีย กรุ๊ป
โครงการ พานารา เทพารักษ์ (Panara Thepharak) เป็นโครงการวิลล่าสุดหรูที่ถูกออกแบบให้ถูกรายล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวและได้ออกแบบด้วยแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบายใกล้กับถนนหลักในจังหวัดสมุทรปราการ
โครงการนี้ได้มีการการออกแบบสถาปัตยกรรมที่รวบรวมวัสดุคุณภาพสูงเอาไว้ทั้งสิ้น เช่น หลังคาของ SCG, หน้าต่างอะลูมิเนียม Tostem และพื้นไม้/ลามิเนต
ประตูทางเข้าหลักที่ตกแต่งด้วยหิน ทำให้รู้สึกถึงการเข้าถึงที่อบอุ่นและน่าดึงดูดใจ ในขณะที่คลับเฮ้าส์ได้แสดงถึงแนวคิด ”Modern Vernacular” โดดเด่นด้วยล็อบบี้ที่กว้างขวาง, ฟิตเนส และห้องนั่งเล่นที่สามารถมองเห็นวิวที่งดงามของสระว่ายน้ำ
นอกจากนี้ โครงการวิลล่าที่ พานารา เทพารักษ์ (Panara Thepharak) ซึ่งได้รับรางวัล Highly Commended ในประเภท Best Mid End Housing Architectural Design (กรุงเทพฯ) จากงาน PropertyGuru Thailand Property Awards ปี 2022
การออกแบบด้วยสีสันสดใส ลวดลายคลาสสิก และรายละเอียดที่หรูหรา มอบสัมผัสของความหรูหราและมีเสน่ห์ให้กับบรรยากาศภายใน ในขณะเดียวกันการออกแบบภูมิทัศน์ของสวนที่มีหญ้า, ต้นไม้, พุ่มไม้, น้ำพุ และศาลาไม้ โดยเน้นให้เป็นสวนที่ง่ายต่อการดูแล สร้างพื้นที่สำหรับผู้อาศัยที่จะได้เพลิดเพลินกับความเป็นส่วนตัว
แหล่งที่มา : ddproperty
No Comments