“นายกฯนิด” ปัดแทรกแซงขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ขอให้ไปทบทวนคิดถึงหัวอกประชาชน

นายกฯเมินครหาแทรกแซงขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย ย้ำให้อยู่กับความ เป็นจริงดีกว่าชี้ย้อนไป 10 ปี ขึ้นค่าแรงมาแค่  37 บาท หรือ 12% ลั่นรับไม่ได้ 3 จังหวัดชายแดนใต้ขึ้นค่าจ้าง 2 บาท ซื้อไข่ไก่ 1 ฟองได้หรือเปล่ายังไม่รู้ วอนเอกชนขยับอีกนิดเพื่อศักดิ์ศรีของประชาชน เชื่อไม่ทำให้ถึงขั้นหายนะ หัวชนฝากดค่าไฟต่ำกว่า 4.20 บาทต่อหน่วย กพช.เคาะ 17 ล้านบ้านใช้ไฟน้อยกว่า 300 หน่วย ต่อเดือน จ่ายค่าไฟ 3.99 บาทเท่าเดิม “เศรษฐา” ปิดประตูเติมเสียงพรรคร่วมรัฐบาล มั่นใจ 314 เสียงมากพออยู่แล้ว “อนุทิน” ส่งกำลังใจให้ “เฉลิมชัย” เคลียร์ศึกใน ปชป. ยันไม่ได้มองเป็นคู่แข่งในสนามการเมือง “นายกฯนิด” ตีกรรเชียงดันปรองดอง คลอดกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นเรื่องของสภาฯ ภท.ท่องคาถาห้ามแก้ ม.112

รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง พยายามอย่างยิ่งที่จะเร่งออกมาตรการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอัตราค่าไฟฟ้า ที่นายกฯระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะพยายามดูแลให้ต่ำกว่า 4.20 บาทต่อหน่วย ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีข้อเสนอช่วยเหลือผู้ใช้ไฟน้อยกว่า 300 หน่วยต่อเดือน ไปหาแนวทางทำให้ยังคงค่าไฟได้ที่หน่วยละ 3.99 บาทเท่าในปัจจุบัน

นายกฯเชื่อมือ “ตุุ๋ย” กดค่าไฟลง 4.10 บาท

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 13 ธ.ค.ที่ห้องแกรนด์ ฮอลล์ 203 ชั้น 2 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน “SUS TAINABILITY FORUM 2024” เรื่อง Clean Energy for Thailand Economy through Sustainability มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า พลังงานสะอาด เรื่อง Net Zero หรือเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์สำคัญที่สุด ไทยโชคดีมีนักธุรกิจ มีผู้นำด้านความคิด สื่อมวลชนให้ความสำคัญเรื่องนี้ SDGs index หรือเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของไทยได้ลำดับที่ 43 ของโลก เป็นจุดขายใหญ่ที่สุดที่จะดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทย อีกประเด็นคือค่าไฟฟ้า ทุกคนเดือดเนื้อร้อนใจอยู่พอสมควร รัฐบาลจึงต้องดึงค่าไฟลงมาในระดับที่แข่งขันได้ ได้คุยกับหลายหน่วยงาน เป้าหมายที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน ตั้งไว้ อยากให้ค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 4.10 บาทต่อหน่วย เชื่อว่าน่าจะทำได้

รับหนักใจภาวะเศรษฐกิจปีหน้า

จากนั้นเวลา 09.00 น. นายเศรษฐาตอบคำถามถึงคำนิยามของเศรษฐกิจในปี 2567 ว่า “หนักใจ” ส่วนตัวคิดว่าเศรษฐกิจช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤติ ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว ค่าแรงที่ยังต่ำอยู่ ยังมีอีกหลายๆเรื่องเต็มไปหมด เมื่อถามว่าหลายฝ่ายห่วงขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะมีกระทบต่อการลงทุน นายเศรษฐากล่าวว่า ห่วงใยตลอด แต่ไม่ได้ห่วงใยว่าจะมีผลกระทบต่อการลงทุน เพราะการลงทุนเรื่องพลังงานสะอาดเชื่อว่ามีความสำคัญมากกว่า ต้องเร่งเจรจา FTA เราให้ความสำคัญมากกว่าเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และต้องให้ความสำคัญกับช่องทางการค้าตามแนวชายแดน ต้องมีบุคลากรที่พร้อมจะทำให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน มีแรงงานคุณภาพ ส่วนการตรึงราคาค่าไฟวันเดียวกัน เวลา 11.00 น.จะประชุมกัน

ปราบยาเสพติด 4 ปี ต้องสะเด็ดน้ำ

เมื่อถูกถามถึงมาตรการปราบปรามยาเสพติดว่า ต่อไปนี้จับกุมได้พิสูจน์ได้ให้เก็บยาเสพติดไว้แล้วเผาทันที โดยวันที่ 26 ธ.ค.จะประกาศเผายาเสพติดครั้งใหญ่ เมื่อถามต่อว่า มี KPI หรือดัชนีชี้วัดผลงานใน 4 ปีนี้ รัฐบาลเศรษฐาจะพลิกโฉมการแก้ปัญหายาบ้าอย่างไร นายกฯตอบว่า ปัญหาลดไป 50% หรือหมดไปพบว่า ความจริงแล้วเรื่องนี้ต้องให้ KPI ว่า ภายใน 4 ปีนี้จะต้องหมดไป

เมินครหาแทรกแซงขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ

นายเศรษฐากล่าวถึงการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำว่า ทุกคนทราบดีว่ารัฐบาลไม่เห็นด้วยกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ประกาศออกไป อย่างพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ปรับขึ้นเพียง 2 บาท ไข่ไก่หนึ่งฟองจะได้หรือเปล่ายังไม่รู้ ฟังดูแล้วมันรับไม่ได้ ลึกกว่านั้นคือปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรมและความแตกแยก จะอ้างเรื่องมติคณะกรรมการไตรภาคีหรือนายกฯไม่มีอำนาจแทรกแซง คุณจะพูดอะไรคุณพูดได้หมด แต่เราอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงดีกว่าว่ามันเหมาะสมหรือเปล่าที่ค่าแรงขึ้นไปขนาดนั้น จะทำให้ธุรกิจถึงกับหายนะหรือไม่ หากขึ้นค่าแรงที่เหมาะสม รัฐบาลนี้ภายใต้การนำของตน การลดค่าใช้จ่าย ลดค่าไฟ การเปิดตลาดใหม่ๆ การเจรจาสนธิสัญญาการค้าและดึงนักลงทุนใหม่เข้ามา เชื่อว่าถึงจุดหนึ่งจะเป็นที่พอใจของภาคธุรกิจ เป็นขวัญและกำลังใจ คืนความชอบธรรมให้ประชาชนฐานราก ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ส่วนเรื่องกฎหมายตนมีสิทธิหรือไม่มีสิทธิเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ขยับขึ้นอีกนิดเพื่อศักดิ์ศรี ปชช.

นายกฯกล่าวด้วยว่า ไปดูแล้วกันขึ้นค่าแรง 300 บาทมา 9 ปีที่แล้ว วันนี้ค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ย 337 บาท 10 ปีให้หลังขึ้นมาแค่ 37 บาท หรือขึ้นไปประมาณ 12% ถ้าลูกท่านจบจากเมืองนอก 10 ปีที่แล้วเงินเดือน 30,000 บาท ถ้าทุกวันนี้เงินเดือน 33,700 บาท รับได้หรือไม่ บางจังหวัดขึ้น 2 บาทบางโซนขึ้น 7 บาท 5 บาท หลายท่านเป็นรัฐมนตรีมาจากภาคประชาชนและการเลือกตั้งรับได้ไหมค่าแรงขึ้นแบบนี้ ความหวังฝากไปยังภาคธุรกิจว่าการขึ้นค่าแรงออกไปอีกนิดนึง ไม่ทำให้ท่านเกิดหายนะหรอก แต่จะส่งผลมิติบวกมากกว่า พูดคุยกันด้วยวาจาที่รับกันได้ในจำนวนเงินที่เดินไปข้างหน้าด้วยกันได้ ขอให้ภาคเอกชนดูแลประชาชนให้สมเกียรติสมศักดิ์ศรี เดินออกไปทำงานตอนเช้าแล้วกลับบ้านมาตอนเย็น มีอาหารการกินเหมาะสมอยู่บนโต๊ะ ฝากด้วยแล้วกัน

ที่มา thairath.co.th