ครั้งแรก ศรีนานาพรฯ เจ้าตลาดขนมไทย ส่งผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รุกพรีเมี่ยมแมส

นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ของบริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP เปิดเผยว่าบริษัทมีเป้าหมายในการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยการส่งเสริมพอร์ตโฟลิโอของสินค้าในกลุ่มขนมและเครื่องดื่ม เพิ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่จะนำพาธุรกิจสู่รายได้ประมาณ 1.20 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปีหรือในปี 2571 โดยมีแผนการที่รายได้จะมาจากในประเทศ 60% และต่างประเทศ 40%

บริษัทยังเริ่มเข้าสู่ตลาดใหม่ที่กำลังขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในประเทศ “เวียดนาม” หลังจากที่โรงงานผลิตสินค้าของบริษัทเตรียมความพร้อมเพื่อการผลิตโดยครบวงจร ซึ่งจะสนับสนุนการขยายตัวในการส่งออกไปต่างประเทศและในตลาดเวียดนามในอนาคต

“ตลาดเวียดนามเป็นที่น่าสนใจอย่างมากและมีขนาดใหญ่ที่สุดในต่างประเทศของบริษัท โดยการขยายตัวของธุรกิจและผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมาได้สร้างการเติบโตอย่างดี และสร้างมาร์เก็ตได้มากกว่าในประเทศ”

ในปี 2566, ผลประกอบการของบริษัทได้ทำกำไรสุทธิ 636 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120 ล้านบาท หรือ 23% ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดใหม่ รายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 6,049 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 445 ล้านบาท หรือ 8% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 5,604 ล้านบาท บริษัทมุ่งเน้นการเติบโตในปี 2567 ให้เติบโตได้ระดับสองหลัก

ชี้กำลังซื้อในประเทศยังมีความต้องการอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในต่างจังหวัด

บริษัทมุ่งหวังให้รายได้รวมขยายตัวในระดับสองหลักในปีนี้ แม้สภาพการซื้อของประเทศอาจไม่ค่อยแจ่มใสมากนัก โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัด ซึ่งมีการชะลอในการซื้อมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้านี้ บริษัทจะคงราคาสินค้าไว้เท่าเดิม และพัฒนาการผลิตสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการนำสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาด เปิดตัวสินค้าใหม่ประมาณ 10 รายการในปีนี้

“ตลาดสแน็คของไทยมีมูลค่าประมาณ 4.30 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มขยายตัวประมาณ 3% ในปีนี้ ซึ่งตลาดนี้มีการขยายตัวน้อยกว่าตลาดมันฝรั่งที่ไม่เติบโต เนื่องจากผู้นำตลาดไม่เน้นทำตลาดสินค้าในราคา 5-10 บาท ส่วนตลาดที่มีการขยายตัวสูงคือกลุ่มข้าวเกรียบกุ้ง และถั่ว ขนมขึ้นรูปยี่ห้อต่างๆ ในขณะเดียวกัน ตลาดในจังหวัดมักเน้นเลือกซื้อสินค้าในราคา 5-10 บาทเป็นหลัก”

การขยายสู่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “เจเล่ฟิตต์” (Jele Fitt) เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการพัฒนาธุรกิจในปีนี้

บริษัทได้มีการขยายสู่ New S-Curve ธุรกิจใหม่ ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Supplementary) ในรูปแบบเยลลี่รสผลไม้สำหรับแต่ละช่วงวัย

ผลิตภัณฑ์ใหม่ “เจเล่ฟิตต์” ได้ถูกออกแบบให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในแต่ละช่วงอายุ และได้ทำการทดสอบการตลาดในช่วงแรกผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อ

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไทยตลาดมาแรงโต 10%

ตลาดเสริมอาหารในไทยมีมูลค่ากว่า 8.7 ล้านล้านบาทและเติบโตขึ้น 10% ในปี 2566 โดยกลุ่มที่เน้นคุณสุขภาพมีส่วนแบ่งประมาณ 29% หรือประมาณ 25,230 ล้านบาท บริษัทได้ศึกษาข้อมูลลูกค้ามานาน 2 ปีก่อนเปิดตัวสินค้าใหม่ในตลาดนี้

“เป็นครั้งแรกที่บริษัทได้ขยายในตลาดพรีเมี่ยมแมส แต่ชูความแตกต่างเรื่องราคา หากเปรียบเทียบกับแบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ จะมีราคาสูงกว่า ภายใต้วัตถุดิบ และปริมาณสินค้าที่เท่ากัน”

ทั้งนี้ประเมินว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่นี้ จะสร้างยอดขายถึงระดับ 1,000 ล้านบาทใน 5 ปีข้างหน้า สร้างสัดส่วนยอดขายประมาณ 3% ของยอดขายรวมของบริษัท

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมรายได้ของบริษัทในปีที่ผ่านมา คือ 73% มาจากตลาดในประเทศและ 23% มาจากต่างประเทศ โดยแบรนด์หลักคือเจเล่ มีส่วนแบ่งการตลาด 78% และเยลลี่เป็นผู้นำตลาด ตลาดโตขึ้น 20% แต่แบรนด์เติบโตขึ้น 21% สูงกว่าตลาด ส่วนเบนโตะ มีส่วนแบ่งการตลาด 72% เป็นผู้นำตลาด และแบรนด์สร้างการเติบโตขึ้น 5% ส่วนตลาดรวมเติบโต 7%

ที่มา: ครั้งแรก ศรีนานาพรฯ เจ้าตลาดขนมไทย ส่งผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รุกพรีเมี่ยมแมส (bangkokbiznews.com)

Admin: ทรรศน์

 

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *