• 27 July 2024

ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยมียอดมูลค่าเกิน 2.6 แสนล้านบาท และเป็นตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและการออกสินค้ารุ่นใหม่เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย นอกจากนี้ยังเกิดการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ขึ้นด้วย

แอลจี เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศเกาหลีใต้ที่เข้าตลาดไทยและก่อตั้งโรงงานผลิตสินค้าในประเทศ ซึ่งผลิตเครื่องซักผ้าฝาบนเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ และเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน นอกจากนี้ยังมีการขยายโมเดลธุรกิจใหม่ในประเทศ ด้วยการเปิดตัวร้านสะดวกซัก LG Laundry Crew แห่งแรกของโลกในปี 2567 ที่ผ่านมา

อำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) รายงานว่า แอลจี มองเห็นโอกาสในตลาดร้านเครื่องซักผ้าในไทยที่กำลังขยายตัวอย่างมาก ซึ่งผู้ประกอบการร้านเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญมีการใช้แบรนด์แอลจีในสัดส่วน 80-90%

โมเดลธุรกิจใหม่นี้ได้รับการคิดค้นจากทีมงาน แอลจี ประเทศไทย และได้ถูกเสนอให้ แอลจี โกลบอลพิจารณาและอนุมัติให้ดำเนินการสร้างขึ้น โดยเป็นโมเดลแห่งแรกในประเทศ โดยมีเป้าหมายในการสร้างแบรนด์ แอลจี ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ โดยเฉพาะในร้านเครื่องซักผ้าในชุมชนและตลาดต่างจังหวัด

โมเดลนี้จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้แบรนด์ แอลจี มีโอกาสที่จะขยายตัวและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในพื้นที่และชุมชนต่างๆ ในประเทศไทย

แอลจี ได้สร้างรูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์ที่แตกต่างออกไปจากร้านแฟรนไชส์ทั่วไป โดยไม่เสียค่าบริการแรกเข้าและไม่มีค่าแฟรนไชส์ซี แต่จะเริ่มต้นการลงทุนตามขนาดธุรกิจ เช่น ขนาด S ลงทุน 1.5 ล้านบาท, M ลงทุน 2 ล้านบาท, และ XL ลงทุน 3 ล้านบาท

แอลจี ยังมีทีมช่างเข้าไปดูแลระบบและบริการหลังการขายของร้านเครื่องซักผ้า เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น เป็นจุดแข็งที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น

แอลจี ไม่มีเจตนาร้านค้าอื่นในตลาดร้านซักผ้าที่มีอยู่ในปัจจุบันประมาณ 30-40 ร้าน แต่ต้องการเสนอแบรนด์ให้กับกลุ่มลูกค้าเพื่อเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า

ร้านต้นแบบแฟรนไชส์ LG Laundry Crew ที่เปิดให้บริการแล้วที่ย่านรามคำแหงซอย 8 เป็นร้านแฟรนไชส์แรกของโลก โดยกลุ่มลูกค้าที่เข้าร่วมลงทุนเป็นพาร์ทเนอร์กับแอลจี สามารถคืนทุนภายในระยะเวลา 2-4 ปี หรือขึ้นอยู่กับโมเดลธุรกิจที่ใช้

อำนาจ สิงหจันทร์ ประเมินว่าตลาดเครื่องซักผ้าในปี 2567 มีแนวโน้มขยายตัวอย่างรวดเร็ว 5% จากปีก่อน ด้วยความต้องการของกลุ่มลูกค้าทั่วไปและตลาด เพิ่มเติมถึงกลุ่มเครื่องซักผ้าเชิงพาณิชย์ที่เพิ่มมากขึ้น แอลจี มุ่งเน้นที่จะขยายตลาดและสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่องในปีนี้ เพื่อรักษาผู้นำในตลาดเครื่องซักผ้าในประเทศไทยต่อไป

ตลาดเครื่องซักผ้าในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 14,300 ล้านบาท โดยแอลจีมีส่วนแบ่งการตลาด 34.3% ในปีก่อน โดยยอดขายเพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อนหน้าครองส่วนแบ่ง 33.7% โดยสินค้ากลุ่มพรีเมียมได้รับการตอบรับที่ดี เป็นส่วนใหญ่ของการเติบโต ส่วนตลาดร้านค้าเครื่องซักผ้าต่างๆ คาดว่ามีเม็ดเงินสะพัดจากค่าบริการประมาณ 12,000 ล้านบาท และยังมีโอกาสการเติบโตเพิ่มเติม

การประเมินอายุการใช้งานของแบรนด์เครื่องซักผ้าของกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปในตลาดเฉลี่ย ประมาณ 8 ปี และเครื่องซักผ้าเชิงพาณิชย์ประมาณ 4-5 ปี แต่แอลจีมีอายุการใช้งานถึง 12 ปี ทำให้ร้านเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญมีแนวโน้มในการใช้แบรนด์แอลจี เป็นส่วนใหญ่ในตลาด ในระยะ 3 ปีข้างหน้า รายได้จากธุรกิจใหม่นี้ จะมีสัดส่วน 2-3% ของรายได้รวมของแอลจีในประเทศไทย

ที่มา:‘แอลจี’ ลุยแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักแห่งแรกในโลก มุ่งสร้างแบรนด์ รักษาผู้นำ (bangkokbiznews.com)

Admin:ทรรศน์

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *