• 5 October 2024

“ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้ Supalai Australia Holdings Pty Ltd (บริษัทย่อยของ บมจ.ศุภาลัย) เข้าร่วมลงทุนกับ Stockland Communities Partnership HoldCo Pty Ltd ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Stockland Corporation Ltd หนึ่งในบริษัทจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียจัดตั้งเป็นกิจการร่วมค้าใหม่ คือ “SSRCP HoldCo Pty Ltd” และได้มีการลงนามในสัญญากิจการร่วมค้า เพื่อลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศออสเตรเลีย มูลค่าลงทุนรวม 1,063 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือ 25,300 ล้านบาท (คำนวณอัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญออสเตรเลียต่อ 23.80 บาท ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2566)

โดย Supalai Australia Holdings Pty Ltd ได้ลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 49.9 คิดเป็นเงินลงทุนกว่า 530 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือ 12,600 ล้านบาท ขณะที่ Stockland Communities Partnership HoldCo Pty Ltd ลงทุนร้อยละ 50.1 เพื่อร่วมกันซื้อโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เกือบทั้งหมด จากหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์แถวหน้าของออสเตรเลีย Lendlease Corporation Limited จำนวน 12 โครงการ ใน 4 รัฐ 5 เมืองสำคัญ

จุดโฟกัสอยู่ที่ 5 เมืองสำคัญดังกล่าว มีเมืองที่ศุภาลัยไม่เคยขยายตลาดมาก่อน ได้แก่ ซิดนีย์ (Sydney) และวูลลองกอง (Wollongong) ในรัฐนิว เซาท์เวลส์ (New South Wales) คิดเป็นมูลค่าโครงการของทั้ง 12 โครงการในสัดส่วนของศุภาลัย 5,785 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือมากกว่า 137,700 ล้านบาท

โดยโครงการที่ศุภาลัยเข้าไปร่วมลงทุนทั้งหมด เป็นโครงการที่ดำเนินกิจการอยู่แล้ว ทำให้หลังจากโอนกรรมสิทธิ์จาก Lendlease Corporation Limited ทุกโครงการสามารถทำรายได้เข้าสู่บริษัทร่วมทุนได้ทันที

ก่อนหน้านี้ ศุภาลัยได้ขยายการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ประเทศออสเตรเลียตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน ช่วงที่ผ่านมามีการลงทุนไปแล้ว 12 โครงการ และทุกโครงการได้รับผลตอบรับจากลูกค้าอย่างดีและสม่ำเสมอ

จุดเด่นของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในออสเตรเลีย แนวโน้มยังคงเติบโตไปในทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง กลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อสูง ประกอบกับเศรษฐกิจมีความมั่นคงดี จึงคาดว่าจะสามารถทำผลตอบแทนให้บริษัทได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ

ที่สำคัญ คีย์ซักเซสจากการลงทุนพัฒนาอสังหาฯในออสเตรเลียต่อเนื่อง 10 ปี พบว่า ศุภาลัยและหุ้นส่วนธุรกิจมีความคล้ายคลึงกัน อาทิ ความเป็นมืออาชีพ (Professionalism) ความถูกต้องทางกฎหมาย (Legality) จรรยาบรรณทางธุรกิจ (Business Integrity) ความน่าเชื่อถือ (Trustworthiness) ความถูกต้องดีงาม (Righteousness)

ซึ่งความคิดและความเชื่อที่เหมือนกันข้างต้น ส่งผลให้มีการสร้างสรรค์พัฒนาความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างกันที่ดียิ่งขึ้นในระยะยาว ทำให้มีความเชื่อมั่นว่า การเพิ่มน้ำหนักการลงทุนของศุภาลัยในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับองค์กร ทั้งในประเทศไทยและออสเตรเลีย

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ ออนไลน์

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *