สาเหตุของอาการปวดหัวที่พบได้บ่อย คือ
1. แบบไม่มีความผิดปกติของสมอง แต่เป็นความผิดปกติเกี่ยวกับเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ รวมถึงอวัยวะรอบ ๆ สมอง และศีรษะ ได้ไก่ อาการปวดหัวจากกล้ามเนื้อบริเวณรอบศีรษะรัดตัว (Tension Headache) มักเกิดจากความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ อาการปวดอาจเริ่มจากปวดเล็กน้อยและค่อย ๆ ปวดมากขึ้น พบได้มากถึง 78% ของผู้ที่มีอาการปวดหัว
ไมเกรน เป็นอาการปวดหัวร้าวลงกระบอกตา อาจปวดข้างเดียวหรือสองข้าง ทั้ง 2 ชนิด พบได้ประมาณ 16% ของผู้มีอาการปวดหัวแบ่งได้ 2 ประเภท คือ แบบมองเห็นแสงวิ่ง with aura แบบไม่เห็นหรือไม่มีแสงวิ่ง without aura
2. แบบมีความผิดปกติของหลอดเลือดสมอง คือ โรคหลอดเลือดแดงหรือหลอดเลือดดำโป่งพอง/แตก เป็นโรคเงียบที่พบได้น้อย แต่มีความรุนแรงมาก ผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดดำโป่งพองหรืออุดตันมักมีอาการปวดหัวรุนแรงเหมือนโดนสายฟ้าฟาด ไม่เคยปวดมากขนาดนี้มาก่อน อาการปวดเป็นขึ้นมาฉับพลันทันที
อันตรายที่ต้องมาพบแพทย์ทันที ได้แก่
1. อาการปวดหัวหลังได้รับอุบัติเหตุกระทบกระแทกบริเวณศีรษะ ภายใน 72 ชั่วโมง
2. อาการปวดหัวเรื้อรัง คือ มีอาการมากกว่า 15 วันต่อเดือน
3. อาการปวดหัวร่วกับมีอาการคลื่นไส้อาเจียน มองเห็นภาพซ้อน ตาพร่ามัว เดินเซ
4. อาการปวดหัวภายหลังการหมดสติ หรือเป็นลมหรือชักเกร็ง
5. อาการปวดร่วมกับมีไข้หรือเลือดกำเดาไหล
6. อาการปวดหัวที่มีอาการชาหรืออ่อนแรงของมือ แขน หรือขาร่วมด้วย
7. อาการปวดหัวรุนแรง หรือไม่เคยมีอาการปวดมาก่อน
8. อาการปวดหัวที่เพิ่มขึ้นโดยทานยาแก้ปวดขนาดเดิมแล้วไม่บรรเทา
9. อาการปวดหัวใด ๆ ก็ตาม ในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับหลอดเลือดสมองและความดันโลหิตสูง
กรณีที่ไม่มั่นใจเกี่ยวกับอาการปวดหัวของตนเองหรืออาการปวดไม่ชัดเจน ไม่ควรนิ่งนอนใจ แนะนำให้ไปพบแพทย์ เพื่อรับการซักประวัติ ตรวจร่างกาย รับยาบรรเทาอาการและตรวจทางรัวสีหรือห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม เพื่อการวินิจฉัยโรคอย่างทันท่วงที
แหล่งที่มา: pptvhd36
แอดมิน ปิงปอง
No Comments