ปี 2566 นับเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง โดยทั้งเทคโนโลยีที่มีอยู่และนวัตกรรมใหม่ ได้ปฏิวัติวิธีการทำงานขององค์กร และในปี 2567 นี้หลายองค์กรกำลังนำเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ที่ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมทางดิจิทัลที่ล้ำกว่าเดิมมาปรับใช้งาน
ราเจช กาเนสัน ประธาน บริษัท แมเนจ เอนจิ้น (Manage Engine) เปิดเผยว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาการพัฒนาเทคโนโลยีมักเป็นผลมาจากความต้องการยกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภค ขณะเดียวกันมีบทบาทสำคัญต่อการรับมือช่วงล็อกดาวน์ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงวิกฤติอื่น ๆ
สำหรับปี 2567 เทรนด์ทางเทคโนโลยีที่จะมีความสำคัญต่อการปฏิรูปธุรกิจประกอบด้วย ความเป็นส่วนตัวและการกำกับดูแลด้าน AI จะกลายเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกในการทำธุรกิจ สอดคล้องไปกับข้อกำหนดทางกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย (PDPA) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนกลยุทธ์ AI ระดับชาติ รวมถึงการประยุกต์ใช้เอไอและ GenAI ในประเทศไทย
เนื่องด้วยมีการผสานรวมเอไอเข้ากับทุกแง่มุมในธุรกิจ เทคโนโลยีที่อาจสร้างความปั่นปวน เช่น Deepfakes หรือ Augmented Reality ได้คุกคามความเป็นส่วนตัวและก่อให้เกิดความเสี่ยง ดังนั้นการใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าวของทั้งภาครัฐและเอกชนควรอยู่ภายใต้การกำกับดูแลที่เข้มงวด และที่สำคัญคือการสนับสนุนให้ใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม โปร่งใส และยุติธรรม
ความเป็นส่วนตัวจะเป็นแกนหลักของทุกธุรกิจในอนาคต และการปกป้องความเป็นส่วนตัวจะกลายเป็นความรับผิดชอบของทุกคนในองค์กร
อย่างไรก็ตาม ปี 2567 เชื่อว่าองค์กรจะนำแนวทางที่เน้นเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้ เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงและอนุญาตได้
การวิเคราะห์จากไอดีซีระบุว่า การใช้จ่ายด้านฮาร์ดแวร์ บริการ และซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกพุ่งสูงถึง 36 พันล้านดอลลาร์ในปี 2566 เพิ่มขึ้น 16.7% จากปีก่อน ส่วนปี 2567 จะเห็นบริษัทเริ่มลงทุนในแผนงานดังกล่าวอย่างจริงจังโดยนำเครื่องมือ โซลูชัน และวัฒนธรรมที่จำเป็นมาใช้ในการพัฒนาความสามารถในการฟื้นตัวทางไซเบอร์โดยรวม
ด้วยเหตุนี้ ความสามารถในการฟื้นตัวทางไซเบอร์จะกลายเป็นตัวสร้างความแตกต่างทางธุรกิจที่สำคัญ ซึ่งจะช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จในตลาดโลกที่มีความซับซ้อนได้
ข้อมูลและรูปภาพจาก กรุงเทพธุรกิจ
เขียนโดย แอดมินแพท
No Comments